บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) รายงานผลประกอบการงวด 6 เดือนของปีงบประมาณ 2567 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 367,032 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.86 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีผู้โดยสารรวม 61.22 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.78 โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,347.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,144.32 ล้านบาท
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ภาพรวมปริมาณการจราจรทางอากาศของ AOT ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 367,032 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.86 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 203,731 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 163,301 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมมีทั้งหมด 61.22 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.78 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 36.82 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 24.40 ล้านคน
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 จำนวนเที่ยวบินจะมีการเติบโตจาก 178,214 เที่ยวบิน เป็น 188,818 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.95 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 10,949 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศลดลง 345 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 2.88 ล้านคน เป็น 3.23 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.96 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 3.01 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.86 และผู้โดยสารภายในประเทศ 0.43 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.65
นอกจากนี้ ตามนโยบาย Free Visa ของรัฐบาลส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารสัญชาติจีนมีการเติบโตเฉลี่ยจาก 13,200 คนต่อวัน ไปเป็น 28,100 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 113 และจำนวนผู้โดยสารสัญชาติอินเดียมีการเติบโตเฉลี่ยจาก 5,100 คนต่อวัน ไปเป็น 6,200 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22
สำหรับผลประกอบการงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 AOT มีกำไรสุทธิจำนวน 10,347.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 369.64 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 34,191.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.31 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 14,116.99 ล้านบาท หรือร้อยละ 71.21 จากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 5,533.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.88 และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 8,583.33 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.51 เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารโดยรวมเพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 19,482.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,856.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.68 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ในส่วนผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 (งวด 3 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) AOT มีกำไรสุทธิจำนวน 5,784.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,221.56 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.77 จากไตรมาส 1 ของปี 2567 โดยรายได้รวม เพิ่มขึ้น 2,500.55 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.86 ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 854.87 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.61
ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT พร้อมส่งเสริมนโยบายผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของโลก เชื่อมโยงการขนส่งทางอากาศ และเชื่อมต่อการเดินทางแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสาร โดยในปี 2567 ทสภ.เตรียมเปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง นอกจากนี้ AOT ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับระบบบริการผู้โดยสารสมัยใหม่เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอยและแก้ปัญหาคอขวด บรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน
ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า AOT มุ่งมั่นพัฒนาสนามบินในความรับผิดชอบให้มีความพร้อมให้บริการผู้โดยสารเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศและภาคการท่องเที่ยวในอนาคต และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป