“SAMART” เทิร์นอะราวด์ครั้งใหญ่ โชว์งบ Q1/2567 โชว์กำไรสุทธิโตแรง เผย SAMTEL SAV SDC ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดปี 67 ทุกธุรกิจเติบโตแรง
บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เตรียมกลับสู่ยุครุ่งเรืองครั้งใหญ่ ผลประกอบการเทิร์นอะราวด์แล้ว งบไตรมาส 1/2567 ฟื้นตัวแรง มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของบริษัทในเครืออย่างต่อเนื่อง
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART กล่าวว่า “ บริษัทกลุ่ม SAMART มีความยินดีที่จะรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2567 มีผลประกอบการณ์เป็นที่น่าพอใจ โดย บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น มีรายได้จากการขาย รายได้ตามสัญญาและบริการรวม 2,081 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท จากผลขาดทุน 26 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจต่างๆของบริษัทฯ โดยกลุ่มธุรกิจ Utilities and Transportations มีรายได้จากการขายงานตามสัญญาและบริการรวม 1,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 23% หรือ 205 ล้านบาทจากไตรมาส 1 ปีก่อน โดยธุรกิจก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจรเพิ่มขึ้น 150 ล้านบาท และ ธุรกิจวิทยุการบินซึ่งดำเนินงานโดย บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ผู้นำธุรกิจวิทยุการบินในประเทศกัมพูชา มีรายได้รวม 417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 94.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 207 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในสายธุรกิจ Digital ICT Solutions ภายใต้ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL มีรายได้รวม 924 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่สายธุรกิจ Digital Communications ภายใต้ บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC มีรายได้รวม 191 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 31 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนขั้นต้น 25 ล้านบาทในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา และมีผลขาดทุนลดลงอย่างมีนัยยะถึง 88% เหลือเพียง 18 ล้านบาท โดยมีรายได้จากค่าบริการแอร์ไทม์เพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการส่งมอบอุปกรณ์ลดลงเนื่องจากการส่งมอบอุปกรณ์ให้กับลูกค้าจนเกือบครบตามสัญญาแล้ว อย่างไรก็ดี SDC ไม่มีค่าใช้จ่ายตั้งสำรองการลงทุนเครือข่ายและอุปกรณ์ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อนแล้ว และ คาดว่า เมื่อจำนวนผู้ใช้บริการเครือข่ายมากขึ้นในปีนี้ จะสามารถพลิกมีกำไรจากการดำเนินงานได้ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ SAMART มีค่าใช้จ่ายในการขาย การบริหารและค่าใช้จ่ายอื่นลดลงประมาณ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 34% เมื่อเทียบกับของปีก่อน โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ทั้งหมดเป็นจำนวน 17,663 ล้านบาท ลดลง 8% และมีหนี้สินทั้งหมดเป็นจำนวน 11,152 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 6,511 ล้านบาท”
“ขณะนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีปริมาณงานที่เซ็นสัญญาแล้ว พร้อมรับรู้รายได้มากถึง 15,412 ล้านบาท ในขณะที่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV คาดว่าจะมีปริมาณการเติบโตของเที่ยวบินในปีนี้ประมาณ 25% และมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นใจว่าธุรกิจด้านการบินจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง จากแผนการขยายการลงทุนธุรกิจสัมปทานวิทยุการบินในประเทศ สปป. ลาว ที่มีความคืบหน้าตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนเตรียมเข้าประมูลงานในอีกหลายโครงการมูลค่ารวมกว่า 15,000-20,000 ล้านบาท พร้อมขยายการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ หรือ Strategic Partners เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ พร้อมกับการขยายบริการด้านเทคโนโลยี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาทสำหรับโครงการใหม่ๆ ซึ่งจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน” นายวัฒน์ชัย กล่าวปิดท้าย