บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
SCG Packaging (SCGP) กำไร 3Q64 ชะลอตัว แนวโน้มจะฟื้นตัว
Company Update
ประเด็นการลงทุน
ผลประกอบการ 3Q64 ชะลอตัวลง ถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และกลยุทธ์โซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร และการบรูณาการภายในห่วงโซ่คุณค่า ผู้บริหารคงตั้งเป้าหมายจะเติบโต 2 หลักมากกว่า 1 แสนล้านบาท และตั้งงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อสนับสนุนการเติบโต คาดผลประกอบการไตรมาส 4Q64 จะฟื้นตัว และผลประกอบการปี 2564-65 เติบโตสูง เราเปลี่ยนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ด้วยวิธี DCF บนสมมติฐาน WACC 8% และ L-T terminal growth 3.2% ได้เท่ากับ 75 บาท เพิ่มจากเดิม 72 บาท คงแนะนำ ซื้อ
กําไร 3Q64 ชะลอตัวลงถูกกระทบจากต้นทุน
SCGP ประกาศผลประกอบการ 3Q64 มีกำไรสุทธิที่ชะลอตัวลงเหลือ 1,781 ล้านบาท (-21% QOQ, +33% YoY) ถ้าหากตัดรายการพิเศษส่วนใหญ่เป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติลดลงเหลือ 1,536 ล้านบาท (-33% QoQ, +6% YoY) กำไรที่ชะลอตัวลงถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบ คือ เศษกระดาษที่ปรับขึ้นแรงจากปัญหาค่าระวางเรือและต้นทุนพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ EBITDA Margin ปรับลดลงเหลือ 15% จาก 19% ในไตรมาสก่อน และ 17% ในปีก่อน ส่วนยอดขายมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 31,930 ล้านบาท (+7% QoQ, +37% YoY) จากการขยายธุรกิจทั้งแบบควบรวมกิจการ M&P (SOVI, Go-Pak, Duytan และ Intan) และการเติบโตจากภายในจากการขยายกําลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้ม 4Q64 จะฟื้นตัว แต่ปรับลดประมาณการปีนี้ลง
แนวโน้ม 4Q64 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้นจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในไทยและอาเซียนดีขึ้น มีการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจและได้แรงหนุนเพิ่มจาก M&P (Duytan และ Intan) เต็มไตรมาส รวมถึงจะได้ข้อสรุปการเข้าซื้อ Deltalab เข้ามาช่วยหนุนยอดขาย แต่จะยังเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบ คือ เศษกระดาษที่ยังสูง และต้นทุนพลังงาน ผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเราปรับลดประมาณการกำไรปกติปีนี้ลง 9% เหลือ 8,105 ล้านบาท แต่ยังเติบโต 21% YoY
แนวโน้มปี 2565 จะเติบโตโดดเด่น
SCGP วางงบลงทุนปี 2564 ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic โดยมี 5 โครงการที่ขยายกำลังการผลิตที่จะทยอยเสร็จในปี 2564-2565 จะช่วยเพิ่มยอดขายรวม 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมถึง M&P 3 บริษัท (DuYtan, Intan และ Deltalab) ที่จะรับรู้ในครึ่งหลังปี 2564 จะช่วยเพิ่มยอดขายต่อปีประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท และยังบวกด้วยการเติบโตสูง ดังนั้นปี 2565 เราคาดยอดขายจะโต 15% สู่ระดับ 138,836 ล้านบาท และมีกำไร 10,570 ล้านบาท โต 30%
