LPH งบโค้งแรก โกยรายได้กว่า 563 ลบ. โตเฉียด 13% กำไรอยู่ที่ 12.76 ลบ. เดินหน้าขยายการลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่ เสริมศักยภาพการเติบโตในอนาคต
“บมจ.โรงพยาบาล ลาดพร้าว หรือ LPH” เปิดโค้งแรกปี 2567 โกยรายได้รวม 563.10 ลบ. โต 12.80% โดยรายได้จากการรักษาพยาบาลเติบโตต่อเนื่อง 11.93% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรอยู่ที่ 12.76 ลบ. ลดลง 26.33% ผลจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายและดอกเบี้ยตัดจ่าย สำหรับหนี้สินที่เกิดจากสินทรัพย์สิทธิการใช้ เพิ่มขึ้นจากการลงทุนขยายศักยภาพของกิจการ ด้านความคืบหน้าแผนการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ ที่ถนนลาดพร้าว รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 68 ส่วนแผนธุรกิจปี 67 นี้ ปักหมุดรายได้รวมโต 20-25% หลังคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้งผู้ป่วยต่างชาติจากตะวันออกกลาง-กัมพูชา คาดรายได้ผู้ป่วยต่างชาติปีนี้พุ่ง 50% จากปีที่ผ่านมา
ดร.อังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 563.10 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12.80% เทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน ที่มีรายได้รวม 499.20 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาลที่เติบโตต่อเนื่อง อยู่ที่ 481.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.37 ล้านบาท หรือเติบโต 11.93% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการให้บริการของบริษัทย่อย AMARC เพิ่มขึ้น 10.71 ล้านบาท หรือ 16.62% เป็นการเติบโตในทุกกลุ่มบริการและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากลูกค้าเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และความสามารถในการรับงานโครงการเอกชนที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เพิ่มขึ้น 43.26% จากนโยบายการขยายการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
โดยมีกำไรอยู่ที่ 12.76 ล้านบาท ลดลง 26.33% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 17.32 ล้านบาท แต่ด้วยบริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายและดอกเบี้ยตัดจ่าย (ไม่ใช่เงินสด) สำหรับหนี้สินที่เกิดจากสินทรัพย์สิทธิการใช้ เพิ่มขึ้นจากการลงทุนขยายศักยภาพของกิจการ ทำให้กำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้ปรับลดลง เติบโตอยู่ที่ 9.26%
“อย่างไรก็ตาม บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเพิ่มสูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 148% และ 157% สำหรับงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ ตามลำดับ จากการเริ่มมีผลของสินทรัพย์สิทธิการใช้ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการขยายกิจการโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ (อยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้าง) รวมถึงส่วนขยายโครงการศูนย์การแพทย์ประกันสังคม / ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและสัญญาเช่าดำเนินงานของบริษัทย่อย (งานห้องปฏิบัติการ) จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับงวด 12.78 ล้านบาท ลดลง 26.33% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงมีกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับงวดแสดงในงบการเงินเฉพาะกิจการที่เติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 27.84%” ดร.อังกูร กล่าว
สำหรับความคืบหน้าแผนการลงทุนสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งใหม่ ที่ถนนลาดพร้าว รพ.จักษุอินเตอร์ฯ ลาดพร้าว และรพ.ศัลยกรรมเฉพาะทางรวมผ่าตัดหัวใจครบวงจร มูลค่าการลงทุนรวม 1,300 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างตึก 500 ล้านบาท และค่าอุปกรณ์การแพทย์ 800 ล้านบาท การก่อสร้างล่าช้าออกไปจากเดิม
เนื่องจากมีการปรับแบบอาคารใหม่เพิ่มในเรื่องของอาคารสีเขียว (Green Building)เป็นเทรนด์รักษ์โลกในขณะนี้ คาดว่าภายในไตรมาส 2/2567 จะเริ่มการก่อสร้างได้ และปลายปี 2568 คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ ซึ่งจะรองรับคนไข้พรีเมี่ยมและคนไข้ต่างชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับ LPH
การขยายตัวในระยะยาวของ LPH เราเน้นการเติบโตที่ยั่งยืน ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเราคงไม่ได้โตหวือหวา ล่าสุดได้ตั้งบริษัทลูกเป็นการแตกไลน์ (Diversify) ธุรกิจ และมีการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการหาพันธมิตร เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ล่าสุดเตรียมลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2567 นี้ เตรียมก่อสร้างคอนโดมิเนียม เกรดพรีเมี่ยม ย่านลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท จำนวน 70 ห้อง ปัจจุบันมีการสำรวจความต้องการจองอยู่ในอัตราที่สูงมากเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและเป็นแหล่งชุมชนใหม่
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุน โรงพยาบาลตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้น จากเดิมเปิด รพ.ตรวจสุขภาพ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่โคราช เพื่อขยายฐานลูกค้าโรงงานขนาดกลางและเล็กที่มีจำนวนพนักงานไม่เกิน 500 คน คาดรายได้ในส่วนตรวจสุขภาพนอกสถานที่จะเติบโตกว่า 50%
โดยแผนธุรกิจในปี 2567 LPH ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยภาพรวมปัจจุบันคนไข้ทั่วไปกลับมาเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ทั้งคนไข้ภายนอก (OPD) และคนไข้ใน (IPD) โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มผู้ป่วยจากประกันสังคม (สปส.) ราว 45% เเละกลุ่มผู้ป่วยเงินสดราว 55% ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้จากตะวันออกกลาง รวมถึงคนไข้ประเทศกัมพูชา ซึ่งสนใจเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยประเมินรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติในปี 2567 คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 50% จากปีที่ผ่านมา
“จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้สัดส่วนผู้ป่วยเงินสดเพิ่มสูงขึ้นด้วย ปัจจุบันโรงพยาบาลมีสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศรวมทั้งหมดไม่ถึง 5% โดยตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี (2566-2568) จำนวนผู้ป่วยจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนที่ 10%” ดร.อังกูร กล่าว
นอกจากนี้ ฐานผู้ป่วยประกันตนในปี 2567 ล่าสุดอยู่ที่ 180,000 ราย จากโควต้า 200,000 กว่าราย เนื่องจากธุรกิจย่านลาดพร้าวมีการขยายตัวไม่มาก โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา LPH ได้เปิดศูนย์การแพทย์ประกันสังคมลาดพร้าวแห่งใหม่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเดิมด้วย เพื่อรองรับฐานผู้ป่วยที่ใหญ่ขึ้น สามารถรับผู้ป่วยนอกประกันสังคม วันละ 1,000 คน และเป็นศูนย์ตรวจสุขภาพประกันสังคมด้วย