ถอยเพื่อตั้งหลัก ? / 1,370— 1,390

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET ลงก่อน แต่บ่ายลุ้นฟื้น: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET วันนี้ แม้ปัจจัยลบมีน้อยกว่า แต่น้ำหนักกดดันสูง ทำให้ดัชนีภาคเช้าอาจเปิดลบด้วยแรงกดดันจาก 1) คาด GDP ไทย งวด 1Q67 จะโตเพียง 0.8%y-y และ 0.6%q-q นอกจากนี้ทางฝ่ายยังคาดสภาพัฒน์จะออกมาลดคาดการณ์ GDP ตามหลายสำนักที่ลดประมาณการณ์ก่อนหน้า 2) สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น หลังสหรัฐขึ้นภาษี โดยมุ่งเน้นที่รถยนต์ EV และซิมิคอนดักเตอร์จากจีน ขณะที่แคนาดาอยู่ระหว่างพิจารณาภาษีรถยนต์ EV จากจีนเช่นกัน สะท้อนภาพประเทศฝั่งพันธมิตรตอบรับนโยบายจากสหรัฐ อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้กลับหนุนกลุ่มนิคมฯ ไทย ส่วนถ้อยแถลงประธานเฟดที่ Georgetown ยังไม่ให้สัญญาณนโยบายการเงินใด ด้านแรงหนุนมีจาก 1) ภาค่อสังหาฯจีนได้ ม.กระตุ้น ทั้งการยกเลิกดอกเบี้ยจำนองขั้นต่ำทั่วประเทศ, ลดเงินดาวน์เหลือ 15% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก ทำให้เศรษฐกิจจีนมีความหวังฟื้นตัว แม้คาดเช้านี้ PBOC จะคงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปีที่ 3.45% และ 3.95% ตามลำดับ 2) ต่างชาติยังแห่ลงทุนไทย ตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 67 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้อนุญาตต่างชาติแล้วกว่า 253 ราย มูลค่า 54,958 ลบ. ซึ่งช่วยจ้างงานคนไทยกว่า 1,019 คน ขณะที่การลงทุนต่างชาติในเขต EEC มี 77 ราย มูลค่า 14,033 ลบ. นอกจากนี้ ภาคการลงทุนไทยยังได้แรงหนุนจากนายกฯ ทัวร์ชวนต่างชาติลงทุนไทย ล่าสุดได้เข้าพบผู้บริหารธนาคาร Intesa Sanpaolo ของอิตาลี เพื่อชวนลงทุน Mega Project ไทย ทางฝ่ายมองเป็นแรงหนุนต่อการจับจ่ายใช้สอยของภาคแรงงาน, ก่อสร้าง และนิคมฯ และ 4) บาทแข็งค่า 0.65 บาท WTD (-1.77% WTD) สู่ 36.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องกับภาพต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 4,596 ลบ. และ Long สุทธิ SET50 Futures 58,504 สัญญา (WTD) ทำให้ขณะนี้ต่างชาติเหลือขายสุทธิสะสมในหุ้นไทยเพียง 88 ลบ. (MTD) และ Long สุทธิ SET50 Futures กว่า 47,118 สัญญา (MTD)
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) จีนออก ม.กระตุ้นอสังหาฯ : HANA, IVL, PTTGC, SCGP 2) Defensive: ADVANC, BDMS, CHG 3) EU ฟื้นตัว: DELTA, KCE, TU 4) นายกเดินสาย และ BOI ดึงดูดการลงทุน: AMATA, GULF, ILINK, INSET, ITEL, WHA, WHAUP

ปัจจัยบวก

  • นายกฯไทย ได้เข้าหารือกับปธน.ฝรั่งเศส โดยได้แยกประเด็น FTA ที่ซับซ้อนออกมา เพื่อให้เกิดความคืบหน้าทางการค้า เช่น รถยนต์ EV นอกจากนี้ยังได้ลงนามในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และได้ขอฝรั่งเศสเป็นต้นแบบในการพัฒนาพลังงานสะอาดแก่ไทย
  • ศาลฮ่องกงได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาขอปิดกิจการ Country Garden ออกไปเป็นวันที่ 11 มิ.ย. ซึ่งเป็นการต่อลมหายใจภาคเอกชนจีน ในขณะที่รัฐบาลจีนกลังเร่งฟื้นฟูภาคอสังหาฯ ในประเทศ
  • BOI เผยการจัดงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม SUBCON Thailand 2024 วันที่ 15-18 พ.ค.67 เป็นครั้งแรกที่บริษัทรถยนต์ 7 แห่งได้เข้าร่วมแสดง วิสัยทัศน์เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม BEV ในไทย และยกระดับ Supply Chain ของไทยให้เข้มแข็ง

ปัจจัยลบ

  • รอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าได้กดดันให้ BOJ มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนสินค้านำเข้า และจะยิ่งกดดันปัญหาการบริโภคภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นให้ยิ่งอ่อนแอ
  • JCS รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัว (Ballistic missile) สู่ทะเลญี่ปุ่นวันนี้ โดยนางคิม โยจองกล่าวว่า การทดสอบอาวุธมีเพื่อป้องกันการรุกรานจากทหารเกาหลีใต้เท่านั้น และได้ปฏิเสธข่าวการส่งอาวุธให้แก่ทางรัสเซีย
  • บทวิจัยจาก J.D. Power ชี้ว่า ความสนใจของผู้บริโภคต่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟ (สถานีชาร์จ) และราคาที่สูง ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีไม่เพียงพอ รวมถึงแผนการขยายเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่อาจไม่ตอบสนองความต้องการทั้งหมด

PICKS OF THE DAY

SCCP BUY

  • เป้าหมาย 35.00 / 36.00 แนวรับ 32.50 / 33.00
  • จีนหนุน: ตัวเลข Industrial Production ของจีนออกมาโต 6.7% y-y มากกว่าตลาดคาด ทางฝ่ายมองเป็นสัญญาณช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากจีนประมาณ 6% ของรายได้ และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจจีน ทำให้คาดแนวโน้มการฟื้นตัวของจีนจะช่วยหนุนการกำไรของบริษัท
  • ได้เปรียบด้านต้นทุน: เนื่องจากบริษัทมีแหล่งกระดาษภายในประเทศ ซึ่งราคายังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับราคากระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ ถือเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทมีความได้เปรียบคู่แข่ง ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้

WHA BUY

  • เป้าหมาย 5.60 / 5.80 แนวรับ 5.20
  • นายกเดินทางเยือนต่างชาติลงทุนไทย: คาดการเดินทางเยือนยุโรปหลายประเทศของนายก ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ค. 67 จะช่วยเป็น Sentiment เชิงบวกแก่กลุ่มนิคมฯ โดยล่าสุด ได้เข้าหารือกับปธน.ฝรั่งเศส โดยได้แยกประเด็น FTA ที่ซับซ้อนออกมา เพื่อ ให้เกิดความคืบหน้าทางการค้า
  • แผนงานชัดเจน เป้าปีนี้อาจขยับขึ้น: โดยรายได้จากกลุ่มนิคมฯ ซึ่งเพียงแค่งวด 1Q สามารถทำยอดขายที่ดินแล้วกว่า 629 ไร่ (ไทย 1575 ไร่, เวียดนาม 55 ไร่) คิดเป็น 38%ของเป้าหมายปีนี้ที่ 1,650 ไร่ ทางฝ่ายคาดมีแนวโน้มที่บริษัทจะขยับเป้าหมายปีนี้ขึ้นในช่วง 3Q67 สำหรัที่ดินรอโอน (Backlog) สิ้นงวด 1Q67 ที่ 1,087 ไร่ (ไทย 1,052 ไร่, เวียดนาม 55 ไร่) กลุ่มสาธารณูปโภค ไฟฟ้าตั้งเป้ากำลังผลิตแตะ 1,000 MW ในปีนี้ ส่วนกลุ่มโลจิสติกส์เตรียมเปิดตัวธุรกิจเช่ารถขนส่งไฟฟ้าพร้อม App ใหม่ สำหรับภาคธุรกิจ คาดชื่อ “Whabit

 

- Advertisement -