Daily View

คาด SET INDEX แกว่งตัวลงกรอบ 1618-1626 จิตวิทยาการลงทุนเป็นลบจาก (1) Dow Jones ปรับฐานลง 0.7% รับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ตามการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (2) เสี่ยงเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับฐานลง 2.1% หลัง EIA (สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับ Bloomberg Consensus คาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้เรื่องของราคาน้ำมันดิบต้องจับตาใกล้ชิดเนื่องจากเข้าใกล้เป้าหมายเราที่ 90 $/BBL (ล่าสุด 84.48 $/BBL ขณะที่จุดสูงสุดอยู่ที่ 86.6 $/BBL) ขณะเดียวกันมุมมองจากทาง EIA ล่าสุดยังระบุว่าภาวะตลาดน้ำมันช่วง 4Q21 เป็นไตรมาสสุดท้ายของภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน 1Q22 จะเริ่มเข้าสู่สมดุล และ 2Q22 จะเข้าสู่อุปทานส่วนเกิน ซึ่งจะเห็นว่าเริ่มสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบล่าสุดที่เห็นการปรับฐานอุตสาหกรรมที่ได้ผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ น้ำมัน (PTTEP) ส่วนรับผลบวก ได้แก่ หุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (AAV BASCC TASCO) แต่อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่เริ่มปรับฐานลงจะทำให้ตลาดคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นข้อถกเถียงกันว่าจะยาวนานหรือแค่ชั่วคราว รวมไปถึงภาวะ Stagflation ขณะที่ PTG มีโอกาสจะเป็นผู้ได้ประโยชน์เช่นกัน หากราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับฐานลงก็จะเพิ่มโอกาสที่รัฐบาลจะเลิกแทรกแซงราคาน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้านี้ PTG เผชิญแรงกดดันจากการที่รัฐบาลเข้ามาควบคุมราคาดีเซล ด้วยการปรับลดค่าการตลาดจาก 1.8 บาท/ลิตร มาเหลือ 1.4 บาท/ลิตร แต่เชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนไปแล้ว

กลยุทธ์การลงทุนแนะระมัดระวัง/หลีกเลี่ยงกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับฐานลงอาทิ (AAV BAPTG SCC TASCO) ส่วนจังหวะปรับฐานยังมองเป็นโอกาสของการสะสม Domestic Play ที่มีปัจจัยบวกรออยู่ช่วงถัดไป อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ธนาคาร (BBL) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI)

Stock Pick

TASCO (ถือ / ราคาเป้าหมาย 19.5 บาท) เน้นแค่ Trading ระยะสั้นเท่านั้น จากปัจจัยบวกเรื่องของราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานลงเมื่อคืน ส่วน 321 คาดว่ากำไรของบริษัทจะลดลง 50% QoQ อยู่ที่ 435 ล้านบาท จากปริมาณการขายรวมที่ลดลง ประกอบกับอัตรากำไรจากยางมะตอยที่ลดลง

PTG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบปรับฐานลง ในกรณีที่รัฐบาลมีโอกาสเลิกแทรกแซงราคาขายหน้าปั๊ม ส่งผลบวกต่อค่าการตลาดที่มีโอกาสขยายตัวขึ้น ด้านราคาหุ้นปรับฐานลงมา 16% จากจุดสูงสุดสวนทางกับกลุ่มเปิดเมืองที่ Outperform มองว่าราคาหุ้นตอบสนองเชิงลบต่อเรื่องของค่าการตลาดไปแล้ว

- Advertisement -