Daily Focus : Energy and Selective Play 

2024 SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาด ปิดลบเล็กน้อย 3.67 จุด ที่ระดับ 1,3662.70 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางราว 3.4 หมื่นลบ. โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนและรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญช่วงท้ายสัปดาห์ สถาบันในประเทศยังซื่อสุทธิในตลาดหุ้นอีกบางๆ 62 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1.7 พันลบ. (และพลิกมา Short Index Futures สูงถึง 3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังคงแกว่งตัว Sideways Down ในกรอบ 1,355-1,370 จุด กลุ่มพลังงานคาดประคองตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น 3% ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยหนุนและมีปัจจัยกดดันจาก Bond Yield สหรัฐฯ ที่ขยับขึ้น ทั้งจากผลการประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปี รวมถึงตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ที่พลิกมาเพิ่มขึ้นผิดคาดที่ 102 จากเดือนก่อนที่ 97 ขณะที่ Comment ของประธาน FED สาขามินนีแอโพลิสออกมาในโทน Hawkish โดยมองว่ายังต้องการเห็นข้อมูลเพิ่มเติมอีกหลายๆ เดือนเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะลงสู่ 2% และไม่ปฏิเสธที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มหากเงินเฟ้อยังเร่งขึ้น ทำให้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ FED ยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงตลาดยังคงรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญท้ายสัปดาห์ ทั้ง PMI ของจีน เงินเฟ้อยูโรโซน GDP 1Q24 ของอินเดีย และโดยเฉพาะเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคง Overhang และจำกัด Upside ของดัชนีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคำร้องความเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคำวินิจฉัยจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน มิ.ย. กลยุทธ์ยังแนะนำถือลงทุนต่อเนื่อง และเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีแนวโน้มกำไรโดดเด่นกว่าตลาด ระยะกลาง-ยาวเรายังมองกลุ่ม Domestic Play ยังน่าสนใจจากอานิสงส์เชิงบวกของทิศทางเศรษฐกิจไทยที่จะทยอยเร่งตัวใน 2024-2H24 จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณกลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวและ Domestic Play ที่มีแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาด // ส่วนที่สะสมไปแล้วบริเวณ 1,350+- ยังถือลงทุน

หุ้นเด่นเดือน พ.ค.: BDMS, CPALL, ITC, NSL, TU

FSSIA Portfolio: AOT, BMS, CALL, CPN, GPSC, NSL, SHR, SJWD, TIDLOR and TU

หุ้นเด่น Finansia 29 พ.ค. 24 : PTTEP

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 183.71 บาท
  • คาดราคาหุ้นวันนี้ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรง 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา เก็งผลการประชุม OPEC+ ในสุดสัปดาห์นี้โดยคาดว่าจะคงการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเนื่อง 
  • เบื้องต้นคาดกำไร 2Q24 เร่งขึ้นทั้ง q-q และ y-y ตามปริมาณขายที่คาดว่าจะทำ New High ขณะที่ราคาขายคาดขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน Consensus ทำประมาณการกำไรปกติปี 2024 ที่ 7.5 หมื่นลบ. ทรงตัวจากปีก่อน และอาจมี Upside จากโครงการใหม่ๆในอนาคต
  • แนวรับ 155//152 บาท แนวต้าน 158-160//164 บาท 

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังค่อนไปในทิศทางไหลออก สุทธิแล้วขาย US$57 ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าที่เกาหลีใต้ประเทศเดียว US$105 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวัน US$21 ล้าน และโดยเฉพาะอาเซียนที่ไหลออกหนาแน่นพอสมควรประเทศละ US$14-45 ล้าน นำโดยไทยและเวียดนาม แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกหลัง Bond Yield สหรัฐฯยังขยับขึ้น ตลาดยังไม่มั่นใจการลดดอกเบี้ยของ FED และยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯปลายสัปดาห์

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (20-26 พ.ค. 2024) มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติ 596,552 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 24,595 คน หรือ 4.30% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 85,222 คน โดย 5 อันดับแรกของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ภาพรวมการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 พ.ค. 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งสิ้น 14,326,507 คน เรายังให้น้ำหนักลงทุน Overweight ในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาลและโรงแรม

(+) EGCO แนวโน้มกำไร 2Q24 เราคาดกำไรจะเพิ่มขึ้น q-q จากเพราะโรงไฟฟ้าหลายแห่ง อาทิ KEGO One และ BLCP กลับมาผลิตปกติ หลังหยุดซ่อมบำรุงใน 1Q24 ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สำหรับทั้งปี 2024 จะมีกำลังผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่เข้าสู่ระบบ 370MW แบ่งเป็น Yunlin (ไต้หวัน) 100MW, APEX (USA) 211MW และ EGCO Cogen replacement 59MW ดังนั้นจึงคาดว่าโมเมนต้นกำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่เหลือของปี 2024 โดยกำไรสุทธิ 1Q24 คิดเป็น 20% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2024 ของ IAA consensus ที่ 8.4 พันลบ. และราคาเป้าหมายเฉลี่ย 132 บาท

(0) SC ประเด็น Rejection Rate สูงขึ้นในกลุ่มบ้าน 10-20 ลบ.เป็นแรงฉุดกำไร 1Q24 จากกำลังซื้อลดลง โดย 2Q24 บริษัทแก้ปัญหาด้วยสกรีนลูกค้ามากขึ้น คาดช่วยลดผลกระทบและ คุณภาพ Backlog ดีขึ้น แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q24 คาดอ่อนลง y-y แต่ฟื้นตัวสูง q-q จากฐานต่ำใน 1Q24 รวมถึงคาดมีกำไรพิเศษราว 80-120 ลบ. จากการขายที่ดินเข้าโครงการ JV 3 โครงการในธุรกิจรร.และคลังสินค้า ขณะที่ให้น้ำหนักใน 2H24 โดยเฉพาะ 4Q24 จะเป็นไตรมาสดีสุดของปี คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 3.80 บาท ระยะสั้นยังขาด Catalyst จากงบ 2Q24 ไม่เด่นแนะรอเห็นการฟื้นตัวของกำไรที่ชัดเจนและปัญหา Rejection Rate คลี่คลายจะดีกว่า ยังแนะนำเพียง “ถือ”

(-) AH โทนการประชุมเป็นลบที่ภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังอ่อนแอ แม้ว่า AH จะพยายามโตแต่เลี่ยงไม่ได้ กำไรปกติ 1Q24 301 ลบ. -29% q-q, -50% Y-y ต่ำกว่าเราและตลาดคาดประมาณ 14% ยอดขายรถในประเทศ 1Q24 -25% y-y ขณะที่ยอดขายของ AH -8% y-y ถือว่าดีแล้ว แต่การผลิตที่ลดลงก็ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 9.5% ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี กำไร 1Q24 ทำได้ 17% ของคาดการณ์ทั้งปี แนวโน้ม 2Q24 ลดลง q-q เราอยู่ระหว่างปรับประมาณลงอีกครั้ง ปีนี้ไม่ใช่ปีของกลุ่ม Auto

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 216.73 จุด หรือ -0.55% ปิดที่ 38,852.86 จุด โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดีดัชนี Nasdaq ปิดที่เหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากความแข็งแกร่งของ Nvidia

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ขณะที่ความเห็นที่ระมัดระวังจากเจ้าหน้าที่เฟด ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขาย

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดทรงตัว โดยตลาดประเมินอัตราเงินเฟ้อออสเตรเลียเดือนเม.ย. ซึ่งจะรายงานช่วงสายวันนี้

(0) ค่าเงินบาท ทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 36.59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.06%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 2.71% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปกพลัส จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการที่สหรัฐเข้าสู่ฤดูการขับขี่รถยนต์ ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 80.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.45%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 22 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 2,379.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 2,381.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.08%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 832.21/ –

- Advertisement -