กลุ่มอุตสาหกรรม | การท่องเที่ยวและสันทนาการ |
หุ้น | ERW |
มูลค่าพื้นฐาน | 2.70 |
คำแนะนำ | SELL |
เราคาดขาดทุนปกติที่ 623 ลบ. ใน 3Q21F ใกล้เคียงระดับต่ำสุดใน 2Q20 (ลอคดาวน์ครั้งแรก) คาดอัตราการเข้าพักจะลดลงต่อเนื่อง qoq เป็น 20% ในภาพรวมของกลุ่มและโรงแรมที่ไม่ใช่ Hop Inn ที่ 10% ซึ่งเป็นระดับที่สร้างผลขาดทุน การขายทรัพย์สินที่สมุย 925 ลบ. จะหนุนสภาพคล่องและใช้เป็นงบประมาณในการขยายเครือโรงแรมในอนาคต และอาจมีอัพไซด์เล็กน้อย 0.1 บาทต่อราคาเป้าหมายของเราหลังรายการขาย อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ ขาย ERW เนื่องจากดาวน์ไซด์สู่ราคาเป้าหมายของเราและอาจใช้เวลาอีกหลายไตรมาสกว่า ERW จะพลิกเป็นกำไร
คาด 3Q21 ขาดทุน 623ลบ. เนื่องจากอัตราการเข้าพักลดลงอย่างมาก
คาด 3Q21 ยังขาดทุนหนัก จากข้อบังคับที่มีผลต่อภาคการท่องเที่ยวและโครงการ
แซนด์บอกซ์ที่ไม่น่าตื่นเต้นทำให้อัตราการเข้าพักของกลุ่มลดลงเป็น 20% ใน 3Q21 (เทียบกับ 34% ใน 3Q20 และ 22% ใน 2Q21) และ 10% ไม่รวม Hop Inn และ 27% สำหรับ Hop Inn ในไทย รวมถึงการประหยัดต้นทุนได้จำกัดทำให้ค่าใช้จ่าย SGA ทรงตัว qoq ในขณะที่รายได้อ่อนแอลงทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายเพิ่มเป็น 109% ใน 3Q21 ขาดทุน 9M21 คิดเป็น 77% ของคาดการณ์ทั้งปีของเรา
ประกาศขายโรงแรมในสมุย 2 แห่ง เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
เมื่อวานนี้ ERW ประกาศขายโรงแรมในสมุย 2 แห่งเป็นมูลค่า 925ลบ. (1. Renaissance Koh Samui ห้องพักหรู 78 ห้องมูลค่า 531 ลบ. และ 2. Ibis Samui ห้องพักประหยัด 209 ห้อง มูลค่า 394 ลบ. รวม 2 โรงแรม 287 ห้อง) คาดรายการจะแล้วเสร็จใน 30 ธ.ค. จุดประสงค์การขายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและปรับงบลงทุนไปยังการขยายโรงแรมประหยัด (Hop-In) คาด net D/E ของ ERW ในปี 2021 จะลดลงเป็น 1.7x จาก 1.87x หลังรายการขายโรงแรม (ต่ำกว่าระดับ covenant ที่ 2.5x)
การขายโรงแรมสร้างอัพไซด์ให้ราคาเป้าหมายของเราอีก 0.1 บาท
จากการขายโรงแรมสองแห่งที่มีห้องเป็นสัดส่วน 3% ของจำนวนห้องทั้งหมดของ ERW และประมาณ 2% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2019 เราตรวจสอบข้อมูลของ DBD และได้เห็นว่าในแง่กำไรสุทธิโรงแรมมีอัตราการทำกำไรที่ต่ำในปี 2019 เราคาดว่าอาจมีอัพไซด์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1บาทต่อหุ้นจากราคาเป้าหมาย DCF หลังรายการ อย่างไรก็ตามเราคงคำแนะนำ ขาย ERW เนื่องจากดาวน์ไซด์สู่ราคาเป้าหมายของเราและอาจใช้เวลาอีกหลายไตรมาสกว่า ERW จะพลิกเป็นกำไร