จะหยุดลงกี่โมง / 1,340-1,355

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ยังเดินหน้าลงต่อ: รับแรงกดดันจากภายนอก หลังตลาดเริมกลับมากังวลถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดว่าอาจเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนาน Bond Yields ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นทั้ง 2 ปี และ 10 ปี สู่ระดับ 4.98% และ 4.61% ตามลำดับ โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแรงกว่า สะท้อนภาพความกังวลถึงอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น คาดความกังวลดังกล่าวจะกดดันภาพตลาดหุ้นในเอเชียด้วยเช่นกัน มองในช่วง 2 วันทำการที่เหลือก่อนประกาศตัวเลข PCE สหรัฐในคืนวันศุกร์ตลาดหุ้นทั่วโลก อาจเข้าสู่ภาวะ Risk off ไปก่อน เพื่อตั้งรับผลกระทบจากความผันผวนที่จะตามมาหลังประกาศตัวเลขดังกล่าว ขณะที่ปัจจัยภายในมีภาพเชิงลบจากความไม่แน่นอนด้านการเมืองเข้ามากดดันเป็นระยะ สร้างความไม่แน่ใจในเสถียรภาพของรัฐบาล และการปรับดัชนี MSCI ที่จะ effective ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีการนำ BTSLH และ MTC ออกจาก MSCI Global Standard ไปอยู่ MSCI Global small cap มองจะสร้างความผันผวนระหว่างวัน ตลาดอาจเน้นซื้อหุ้น Defensive หุ้น Lowbeta หรือหุ้น Global Play ที่อิงกับความหวังดอกเบี้ยทิศทางลงในยุโรป และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ด้านค่าเงินบาทเดินหน้าอ่อนค่าสู่ระดับ 36.86 บาทต่อดอลลาร์ยังเป็นบวกต่อหุ้นบาทอ่อน และหุ้นที่มีสัดส่วนส่งออกสูงในคืนนี้ตลาดจับตาทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ก่อนถึงการประชุม OPEC+ เนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์คาดจะออกมาที่ -1.9 ล้านบาร์เรล พลิกกลับมาเป็นลบอีกครั้งหลังสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 1.825 ล้านบาร์เรล หากออกมาตามคาดมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้น เป็นบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ นอกจากนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP สหรัฐ 1Q67 รอบ Preliminary ครั้งที่ 2 คาดจะชะลอตัวสู่ระดับ 1.6%q-q หลังเพิ่มขึ้น 3.4%q-q ในไตรมาสก่อน หากออกมาตามคาดอาจสร้างความหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Commodity Play : NER, STA, STGT, PTTEP, TEGH 2) Defensive Play : CHG, PR9 3) ศก.ยุโรปฟื้น: GFPT, MINT, XO 4) หวังศก.จีนฟื้น: TTA, PSL, RCL, SCGP 5) บาทอ่อน: AAI, ITC, ASIAN และ 6) Selective : BLA, OSP, NSL, TRUE

ปัจจัยบวก

  • อิสราเอลเดินหน้าโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของคาซาไม่สนประณามจากนานาชาติ พร้อมทั้งยืนยันจะเดินหน้าโจมตีเมืองราฟาห์ต่อไป หนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เป็นบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ
  • รองนายครัฐมนตรี กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ถึงแนวทางและหลักเคณฑ์ในการฟื้นกองทุ่นรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อกระตุ้นให้ตลาดหุ้นไทยคลับมาคึกคักอีกครั้ง
  • IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2024 ว่าจะเติบโตถึง 5% จากเดิมซึ่งประเมินไว้ที่ 4.6% ด้วยอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงโตรมาสแรคของปีนี้ที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
  • สี จินผิง ให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับการจ้างงานคนหนุ่มสาวเป็นอันดับแรค พร้อมจัดสรรทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อสร้างงาน ซึ่งก่อให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะมีการปฏิรูปการจ้างงานในที่ประชุมนโยบายเดือน ก.ค.

ปัจจัยลบ

  • โกลด์แมน แซคส์ คาด ธปท. จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จากเดิมที่เคยคาดการณ์เอาไว้ว่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลไทยวางแผนใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งช่วยลดแรงคดดันในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้คับธปท.
  • ยุโรประบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับจีนมีแนวโน้มจะยำแย่ลงในอีกไม่ที่ปีข้างหน้า เนื่องจากอุปสรรคด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ทำให้เกิดความตึงเครียด
  • ธปท. แสดงความคังวลต่อเสถียรคาพการคลังว่า กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2567 อีก 1.22 แสนล้านบาท อาจทำให้เพดานหนี้สาธารณะทะลุเพดานที่ 70% และภาระดอกเบี้ยภาครัฐจะเพิ่มขึ้นตาม
  • ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเปิดเผยว่ายูเครนควรได้รับอนุญาตสามารถใช้อาวุธของฝรั่งเศส รวมถึงขีปนาวุธพิสัยโคล เพื่อโจมตีเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้ สร้างความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์อีกครั้ง

PICKS OF THE DAY

SCGP BUY

  • เป้าหมาย 36.00 / 37.00 แนวรับ 33.00
  • เวียดนาม-จีนหนุน : เมื่อวันที่ 29 พ.ค.เวียดนามมีการประกาศตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม รวมถึงยอดค้าปลีกซึ่งตัวเลขออกมาโตขึ้น y-y ทั้งสองดัชนี นอกจากนี้ปลายสัปดาห์จะมีการประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจากเดือนเม.ย.ที่ 50.4 เป็น 50.5 ในเดือนพ.ค. สะท้อนพัฒนาการที่ดีขึ้นของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากรายได้ของ SCGP มีสัดส่วนจากจีนและเวียดนามรวมกว่า 20% น่าจะช่วยหนุนการกำไรของบริษัทในไตรมาส 2 นี้
  • ได้เปรียบด้านต้นทุน : เนื่องจากบริษัทมีแหล่งกระดาษภายในประเทศ ซึ่งราคายังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับราคากระดาษนำเข้าจากต่างประเทศ ถือเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทมีความได้เปรียบคู่แข่งในช่วงที่เหลือของปีนี้

NER BUY

  • เป้าหมาย 6.20 / 6.40 แนวรับ 5.80 / 5.90
  • ราคายางเฉลี่ยขึ้นต่อ: คาด 2Q67 ยังได้ประโยชน์จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวโน้นกำไรปรับตัวขึ้น y-y และ q-q, ปัจจุบันราคา Sicom TSR 20 Rubber ปรับตัวอยู่ในระดับสูงอยู่ที่ 180.4 cent/Kg. อยู่ในช่วงระดับเดียวกับสินค้า commodity ที่ปรับตัวขึ้นในช่วงสงครามรัสเซีย เมื่อปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่ NER ได้กำไรในช่วงปีนั้นไปกว่า 1.85 พันลบ. +115.5%y-y
  • จีนมีสัญญาณดี: ทางฝ่ายคาดจะได้ Sentiment ทางบวกจากแนวโน้มที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้บริโภคยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก หลัง IMF ได้ปรับเพิ่มคาด GDP ปีนี้สู่ 5% จากที่เคยคาดก่อนหน้านี้ที่ 4.6% กอปรกับภาคการผลิตของจีนยังมีแนวโน้มเผยถึงสัญญาณดี หลังตลาดคาดดัชนี PMI ภาคผลิตเดือนพ.ค.67 ที่ 50.5 ซึ่งเหนือ 50 และเป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต

 

- Advertisement -