บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

TIPCO ASPHALT คาดกำไร 3Q64 ชะลอตัว QoQ และ YoY

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +14.8%

Close Oct 27, 2021 Price (THB) 18.30

12M Target (THB) 21.00

Previous Target (THB) 22.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 403 ล้านบาท ชะลอตัวลง QoQ และ YoY จากปริมาณขายยางมะตอยรวมที่ลดลงรวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากการเข้าสู่ช่วง Low Season ของธุรกิจภายในประเทศ และการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดิบจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เวเนซุเอลา
  • กำไรปกติ 4Q64 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จากการออกจากช่วง Low Season และราคายางมะตอยที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น QoQ รวมถึงมีโอกาสได้รับกำไรพิเศษราว 200 ล้านบาทจากค่าประกันภัย

Our view

  • เราปรับประมาณการกำไรปี 2564-65 ลงเป็น 2,124 ล้านบาท และ 2,199 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อน GPM ที่ลดลง หลังจากเปลี่ยนแหล่งน้ำมันดิบเป็นแหล่งอื่น
  • ปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2565 ได้ราคาเหมาะสม 21.00 บาท/หุ้น มี Upside 14.8% และมี Upside เพิ่มเติมหากสหรัฐฯมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร หลังการเลือกตั้งของเวเนซุเอลาในเดือน พ.ย. 64

คาดกำไรปกติ 3Q64 ชะลอตัวจากปริมาณขาย และ GPM ที่ชะลอตัว

คาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 403 ล้านบาท ชะลอตัว -54% QoQ และ -77% YoY หลังได้รับแรงกดดันจาก 1) คาดปริมาณการขายยางมะตอยรวมใน 3Q64 ที่ 3.2 แสนตัน ลดลงจาก 3.4 แสนตัน ในช่วง 2Q64 และ 5.1 แสนตันในช่วง 3Q63 และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q64 ที่ลดลงมาอยู่ในระดับ 11.7% เทียบกับ 17.9% ใน 2Q64 และ 29.9% ในช่วง 3Q63 จากการเข้าสู่ช่วง Low Season ของตลาดในประเทศที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าตลาดต่างประเทศ และการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดิบจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เวเนซุเอลา (ต้นทุนสูงขึ้น) รวมถึงราคาขายเฉลี่ยของยางมะตอยที่ทรงตัว QoQ

แนวโน้มกำไรปกติ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ

กำไรปกติ 4Q64 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จากการออกจากช่วง Low Season ของธุรกิจยางมะตอยภายในประเทศในช่วง 3Q64 รวมถึงราคาขายยางมะตอยที่เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้งใน 4Q64 หลังราคาทรงตัวในช่วง 2Q64-3Q64 จึงคาดว่าใน 4Q64 บริษัท ฯ จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น QoQ นอกจากนี้มีโอกาสที่ TASCO จะได้รับกำไรพิเศษจากเงินประกันภัยราว 200 ล้านบาท ในช่วง 4Q64

ปรับประมาณการปี 2564-65 ลงเพื่อสะท้อน GPM ที่ลดลงหลังเปลี่ยนแหล่ง Crude

เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ลง -8% เป็น 2,124 ล้านบาท (-40% YoY) และปรับประมาณการ 2565 ลง -12% เป็น 2,199 ล้านบาท (+4% YoY) เพื่อสะท้อนเพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงหลังจาก บริษัทฯ ไม่สามารถซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาซึ่งเหมาะสมสำหรับการนำมาผลิตยางมะตอยได้ หลังสหรัฐฯประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัฐบาลเวเนซุเอลา และบริษัทพลังงานแห่งชาติ (PDVSA) อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯอาจมีการพิจารณายกเลิกมาตรการดังกล่าว หากการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีของเวเนซุเอลาในเดือน พ.ย. เป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 21.00 บาท/หุ้น

เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 21.00 บาทต่อหุ้น อิง PER2565 ที่ 15.0x โดยมี Upside Gain +14.8% คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยราคาเหมาะสมมี Upside หากสหรัฐฯตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรกับเวเนซุเอลาหลังการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีการยกเลิก บริษัท ฯ จะสามารถกลับมาใช้งานน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้อีกครั้ง และจะส่งผลให้บริษัท ฯ กลับมามีผลประกอบการใกล้เคียงกับช่วงก่อนการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวได้

- Advertisement -