หวังนโยบายการเงินผ่อนคลาย / 1,340-1,360

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวแดนบวก: แรงหนุนจากความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลัก หากแต่ถูกลดทอนด้วยราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง และความกังวลการเมืองในประเทศ ทั้งนี้ มอง Sentiment การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มดีขึ้น สอดรับกับ US bond yield 2 และ 10 ปีที่ปรับตัวลงสู่ 4.8% และ 4.4% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความหวังว่าเฟดมีโอกาสที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐฯเผย Headline PCE ขยายตัว 2.7% y-y และ 0.3% m-m และ Core PCE ขยายตัว 2.8% y-y ในเดือนเม.ย.67 ซึ่งเท่ากับตลาดคาดและเดือนมี.ค.67 อีกทั้งภาพ m-m ของ Core PCE ขยายตัวเพียง 0.2% ต่ำกว่าตลาดคาดและเดือนมี.ค.67 ที่ 0.3% กอปรกับภาพศก.ที่อ่อนแอจะเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อการลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ เผย PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.67 จาก ISM ที่ 48.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน นอกจากนี้ คาดสัญญาณการฟื้นตัวทางศก.ของยูโรโซนจะเป็นอีกแรงหนุนหลังยูโรโซนเผย PMI ภาคการผลิตที่ 47.3 เพิ่มขึ้นจาก 45.7 ในเดือนเม.ย.67 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.66 ขณะที่การเผย Headline CPI และ Core CPI เดือนพ.ค.67 ที่ภาพ y~y เร่งตัวขึ้นสู่ 2.6% และ 2.9% จาก 2.4% และ 2.7% ตามลำดับ ในเดือนเม.ย.67 มองถูกบดบังจากความคาดหวังว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัดโดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคานำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 3.6% สู่ระดับ $74.22 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลว่ามติของ OPEC+ ที่ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันส่วนใหญ่ออกไปจนถึงปี 2568 แต่เปิดช่องให้สมาชิก 8 ชาติสามารถเลือกแนวทางการปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่เดือนต.ค.67 เป็นต้นไป อาจจะนำไปสู่การเพิ่มอุปทานในวัน ข้างหน้า นอกจากนี้ คาดการเมืองไทยจะเป็นอีกแรงกดดัน หลังในเดือนมิ.ย.67 จะมีหลายคดีสำคัญ โดยวันนี้ติดตามคดียุบพรรคก้าวไกล
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ศก.ยุโรปฟื้น: DELTA, GFPT, KCE, SAPPE, STA, TEGH, XO 2) Anti-comm : BGRIM GPSC, GULF, SCGP 3) ส่งออก: AAI, CBG, ITC, MALEE 4) Data Center: ADVANC, INSET, SYMC ua: 5) Defensive: CHG, CKP, TTW

ปัจจัยบวก

  • ธปท.เผยศก.ไทยเดือนเม.ย.67 โดยรวมปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามภาคบริการที่ขยายตัว สอดคล้องกับรายรับภาคการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น หลังเทศกาลถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน สิ้นสุดลง นอกจากนี้ อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นหลังจากลดลงในเดือนก่อน
  • รองโฆษกสำนักนายกฯเผยจากข้อมูลสำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการประมูลยางพาราประจำวัน ปรากฏว่าผลประมูลยางแผ่นรมควัน RSS (EUDR) ชั้น 3 ได้ราคาสูงสุด 96.66 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2555
  • จีนเผย PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.67 จาก Caixin ที่ 51.7 เพิ่มขึ้นจาก 51.4 ในเดือนเม.ย.67 และมากกว่าตลาดคาดที่ 51.6 อีกทั้ง ยืนเหนือ 50 เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาบ่งชี้การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการผลิตจีน

ปัจจัยลบ

  • Bloomberg เผยไทยกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ของความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมต่อตลาดการเงินที่เปราะบางของประเทศ
  • Xinhua รายงานว่า ตั้งแต่ 15 มิ.ย.67 จีนจะยกเลิกให้สิทธิพิเศษทางศุลกากรตามเงื่อนไข ECFA กับสินค้าไต้หวัน 134 รายการ เพื่อตอบโต้ไต้หวันที่เลือกปฏิบัติและจำกัดสินค้าส่งออกจากจีนก่อนหน้านี้
  • ปธน.โจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนสามารถใช้อาวุธที่ได้จากทางสหรัฐโจมตีบางพื้นที่ในรัสเซีย เฉพาะในเขตที่ใกล้กับเมืองคาคีฟได้ เป็นแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น
  • S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของประเทศฝรั่งเศสจาก AA เป็น AA- เนื่องจากยอดขาดดลงบประมาณเพิ่มขึ้น

PICKS OF THE DAY

GFPT BUY

  • เป้าหมาย 14.00 / 14.50 แนวรับ 13.00
  • ซัพพลายส่งออกไก่ลดลง: สหรัฐฯและญี่ปุ่นแบนนำเข้าไก่จากออสเตรเลีย และอาจทำให้ EU แบนตามมาอีกด้วย จะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการส่งออกไก่แปรรูปเพิ่มมากขึ้น และน้ำท่วมในบราซิลจะทำให้ซัพพลายส่งออกไก่ดิบลดลง มองเป็นประโยชน์ต่อ GFPT มากสุดจากการทำธุรกิจไก่ 100% มีรายได้ส่งออก 22% (สัดส่วนส่งออกไปญี่ปุ่น 24% EU 11% UK 24%)
  • มอง 2Q67 กำไรยังคงเติบโต y-y ได้ดี: มอง 2Q67 รายได้ลดลง y-y จากการลดราคาขายไก่เป็นให้ GFN แต่จะทำ GPM จะดีขึ้นจากต้นทุนการเลี้ยงลดลง และส่วนแบ่งกำไรดีขึ้นจาก GFN ที่แนวโน้มส่งออกยังดีอยู่ คาด 2Q67 ยังเติบโต y-y ได้ดี

SYMC BUY

  • เป้าหมาย 9.00 / 9.30 แนวรับ 8.50
  • รับกระแส Data Center: จากกระแส Data Center โดยมีบริษัทต่างประเทศสนใจลงทุนในไทย เช่น Alibaba และ Microsoft ขณะที่ Amazon ยังยืนยันลงทุนในไทยผ่านงาน AWS Summit in Bangkok ว่าจะสร้าง Data Center ในไทยมูลค่ากว่า 1.9 แสนลบ. ภายในปี พ.ศ. 2580 และปีที่ผ่านมาลงทุนไทยแล้วกว่า 1.16 หมื่นลบ. สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทและเป็นไปในทิศทางเดียวกับกระแสโลก
  • 1Q67 เติบโตโดดเด่น: งวด 1Q67 มีรายได้ 527.1 ลบ. (+12.2%y-y) ขณะที่กำไรที่ 64.2 ลบ. (+36.8%y-y) สำหรับปีนี้ บริษัทมองได้แรงหนุนการเติบโตยังมีจากความต้องการของตลาดระดับ Hyperscalers, การใช้จ่ายของภาค เอกชน และกระแสเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล

 

- Advertisement -