Daily Focus: Selective Play
2024 SET Target: 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงผิดจากที่คาดว่าจะฟื้นตัว ดัชนีปิดลบ 9.91 จุด ณ สิ้นวัน ที่ระดับ 1,328.41 จุด ทำ Low ใหม่ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 4.5 หมื่นลบ. หุ้นขนาดใหญ่ยังเผชิญแรงขายค่อนข้างกระจายตัวทั้งกลุ่ม ธนาคาร พลังงาน ปีโตรเคมีขนส่ง เป็นต้น ส่วนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ประคองตลาด สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสูงถึง 3.2 พันลบ. (และ Short Index Futures เร่งขึ้นเป็น 3.75 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down หลังภาพทางเทคนิคเป็นลบหลังหลุด Low เดิมบริเวณ 1,330 จุด โดยประเมินกรอบการแกว่งตัวที่ 1,320-1,335 จุด บรรยากาศการลงทุนโดยรวมวันนี้เป็นกลางหลังจากตอบรับเชิงบวกจากความคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งปีนี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯระยะหลังที่ออกมาชะลอและต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามโฟกัสสำคัญวันนี้อยู่ที่การจ้างงานนอกภาคเกษตร//ค่าจ้างแรงงาน// อัตราว่างงาน เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ หากออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจะเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม สำหรับไทยที่ Underperform ตลาดอื่นๆ สาเหตุหลักคาดว่ายังคงมาจากปัจจัยเฉพาะตัว โดยเฉพาะการเมือง ทั้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะคำร้องความเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสินเพราะเป็นความเสี่ยงและมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นอกจากนี้การเลือกตัว สว. ชุดใหม่ยังไม่แน่นอนว่าจะถูกเลื่อนหรือไม่ โดยต้องติดตามการแถลงจากกกต.วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังถูก Overhang และทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะสั้นลดลง กลยุทธ์ยังแนะนำถือลงทุนต่อเนื่อง และเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีความเสี่ยงต่ำจากผลกระทบของปัจจัยในประเทศ
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาด // รอดูแรงซื้อจากฐานแนวรับถัดไปบริเวณ 1,300+- จุด
หุ้นเด่นเดือน พ.ค.: BDMS, CPALL, ITC, NSL, TU
FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU
หุ้นเด่น Finansia 7 มิ.ย. 24 : NEO
- แนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 64 บาท
- คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 285 ลบ. +6% q-q,+83% y-y จากปัจจัยฤดูกาล และสินค้าใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยคาดรายได้ 2Q24 +2% q-q และ +10% y-y จากทั้งกลุ่มสินค้า Household // Personal Care // และ Baby and Elderly ขณะที่ gross margin อยู่ระดับ 46% ใกล้เคียงกับ 1Q24 จากการใช้อัตรากำลังผลิตที่สูง
- เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ขึ้น 9% เป็น 1 พันลบ. +22% y-y จากการปรับสมมติฐาน gross margin เพิ่ม และคาดการเติบโตของกำไรใน 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 11% CAGR ฐานะการเงินแกร่ง ROE สูงถึง 22%
- แนวรับ 53//52 บาท แนวต้าน 55.25//57.50-58 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$440 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$593 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้ปิดทำการ ด้านอาเซียนเม็ดเงินไหลออกเกือบทุกประเทศ นำโดยไทย US$87 ล้าน มีเพียงฟิลิปปินส์ที่ไหลเข้าบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดชะลอการไหลเข้า โดยรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯคืนนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค. 24 วันนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +1.19% y-y เทียบกับ +0.19% y-y ในเดือน เม.ย. 2024 ขณะที่คาดเงินเฟ้อพื้นฐานที่ +0.36% y-y ลดลงจาก +0.37% ในเดือน เม.ย. 2024 หากออกมาตามคาด เชื่อว่ากนง. จะยังดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 2.5% จนถึงสิ้นปี
(0) จับตาการจ้างงานสหรัฐฯเดือน พ.ค. 24 ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.85 แสนตำแหน่ง เพิ่มจากเดือนก่อนที่ 1.75 แสนตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 2 แสนตำแหน่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่วน ค่าจ้างแรงงานคาด +0.3% m-m, +3.9% y-y ทรงตัวจากเดือนก่อน ส่วนอัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 3.9% หากออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อยจะเป็นบวกต่อความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของ FED แต่หากออกมาสูงกว่าคาดมากจะสร้างความไม่มั่นใจกับตลาดและอาจทำให้ Bond Yield พลิกมาปรับขึ้นระยะสั้น
(+) ECB เริ่มลดดอกเบี้ยตามคาด โดยปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากจาก 4% เหลือ 3.75% แต่ภาพรวมตลาดมองเป็น Hawkish Hold โดยคาดว่าเดือน ก.ค. จะไม่เห็นการปรับลงต่อเนื่องขณะที่เดือน ก.ย. ยังมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจในระยะถัดไป
(+) กลุ่มโรงไฟฟ้า สนพ. เผยความคืบหน้าในการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของไทย ปี 2024-2037 หรือ PDP 2024 ขณะนี้มีการกำหนดเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในช่วงระหว่าง 12-13 มิ.ย. นี้ และจะเปิดรับฟังความคิดเป็นรูปแบบออนไลน์ใน 4 ภูมิภาค ตั้งแต่ 19-23 มิ.ย. 2024 เพื่อนำไปประกอบการปรับปรุงแผนให้มีความครบถ้วน คาดว่าจะเสนอแผน PDP 2024 เข้าครม. เดือน ก.ย. 2024 ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดการนี้ เราเชื่อว่าจะเห็นการเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐรอบใหม่ราว 3,200 เมกะวัตต์ ใน 4Q24 และส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหนุมเวียน และจะส่งผลบวกต่อบริษัทผลิตไฟฟ้าเช่น GULF GUNKUL GPSC BGRIM และ EA เหล่านี้น่าจะเป็นตัวเต็งในการชนะประมูลรอบใหม่นี้
(0) คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 2H24 สำหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า BJC TIDLOR ITC BCP หุ้นออก BANPU COM7 SAWAD KCE // ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า BA BJC CKP EPG JAS JTS MBK QH SKY ออก BYD FORTH MOSHI NEX ORI RCL SNNP THG TKN
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 78.84 จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 38,886.17 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบเล็กน้อย ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข จ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่นักลงทุนติดตามเพื่อประเมิน ช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลท์แคร์ แม้ตลาดปิดต่ำกว่าระดับสูงของวัน หลัง ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ขณะที่นักลงทุนติดตามตัวเลขส่งออกของจีนในเช้านี้
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 36.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.57%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.55ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ทำให้นักลงทุนคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 75.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.25%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 2,390.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,398.00 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ 0.30%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 837.11/ +0.41%