Trading Range: Sideways กรอบแคบ

PICKS OF THE DAY

AWC BUY

  • ยอดจองโรงแรมพุ่ง: รับเปิดประเทศส่งผลให้อัตราการจองห้องพักโรงแรมบางแห่งเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เท่า บวกกับงานจัดเลี้ยง / ประชุมสัมมนา (MICE) มีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนทิศทางบวกชัดเจนใน 4Q64
  • Traffic คนเดินห้าง / กลับออฟฟิศมากขึ้น: Sentiment ในประเทศดีขึ้น หนุนคนกลับเข้าทำงานออฟฟิศเดินห้างฯ และศูนย์การค้ามากขึ้น จะทำให้กลุ่มธุรกิจ Retail & Office ค่อยฟื้นตัวดีขึ้น

EPG BUY

  • งบ 2Q65 คาดยังโตเด่น Y-Y: แม้คาดถูกกระทบจาก COVID-19 เหมือนบริษัทอื่นๆ แต่ด้วยจุดเด่นเรื่องรายได้ที่กระจายตัวในหลากหลายธุรกิจ และหลายประเทศ ทำให้ทางฝ่ายคาด EPG จะมีกำไรสุทธิ 2Q65 เติบโต Y-Y จากยอดขาย และ GPM ที่ดีในธุรกิจ AFC และ ARK ขณะที่ธุรกิจ EPP แม้ยอดขายดี แต่คาด GPM ปรับลงแรงหลังเน้นใช้โปรโมชันกระตุ้นยอดขาย
  • 2H65 คาดดีต่อ: ความกังวลราคาน้ำมันที่อาจส่งผลต่อต้นทุนคาดจำกัด หลัง EPG ล็อกราคาวัตถุดิบบางอย่างล่วงหน้า ทำให้แนวโน้ม 2H65 คาดยังดีต่อ

ตลาดหุ้นวันนี้

  • Sideways กรอบแคบ: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบระหว่าง 1620 – 1630 จุด แม้ปัจจัยภายในจะมีความคืบหน้าในการเปิดประเทศเพิ่มเติมจากการประชุมศบค ชุดใหญ่ในวันนี้ แต่คาดไม่น่าตื่นเต้นมากนัก ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังดูผสมกันระหว่างบวกและลบ อาทิ 1) ผลการประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม 2) สหรัฐรายงานตัวเลข GDP 3Q64 ขยายตัวเพียง 2.0% q-q, ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.7% q-q แต่ยังถือว่าสอดคล้องกับการลดลงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งตลาดได้รับรู้ไปก่อนหน้านี้แล้ว 3) ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐวานนี้รายงานออกมาเพิ่มขึ้น 2.81 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9 แสนราย และ 4) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังแกว่งตัวออกข้างไร้ทิศทางแถวบริเวณ 1.57% ในภาพรวมทางฝ่ายมองว่าตลาดยังคงไร้ปัจจัยหนุนใหม่ที่มีนัยสำคัญ จึงคาดว่านักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอดูผลประกอบการ 3Q64 เพิ่มเติม รวมถึงเพื่อติดตามผลการประชุม FED ในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีความสำคัญต่อกลยุทธ์การลงทุนหลังจากนี้
  • ผลการประชุม ECB ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น: วานนี้ ECB มีมติให้คงดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม คืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์คงที่ระดับ 0% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB คงไว้ที่ระดับ -0.50% ตามเดิม พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนด้านโครงการ PEPP จะสิ้นสุด มี.ค. 65
  • ติดตามผลการประชุมสบค. ชุดใหญ่วันนี้: รายละเอียดเบื้องต้นท่านนายกฯ เตรียมพิจารณาปรับลดความเข้มข้นของมาตรการคุมเข้มเพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ซึ่งรวมถึงการปรับลดพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มจาก 23 จังหวัด ลงเหลือ 7 จังหวัด ในภาพรวมทางฝ่ายมองเป็นกลางต่อประเด็นนี้หลังนักลงทุนส่วนใหญ่รับทราบข้อมูลการเปิดประเทศไปค่อนข้างมากแล้ว แต่ถ้ามีการผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญเพิ่มเติม อาจมองเป็นปัจจัยบวกเล็กน้อย
  • ปัจจัยสำคัญน่าติดตามในสัปดาห์หน้า: 1) การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 พ.ย. นี้ 2) การประกาศงบ 3Q64 3) การประชุม OPEC+ วันที่ 4 พ.ย. นี้ และ 4) ผลการประชุม FED ที่หลายฝ่ายมองว่า FED น่าจะดำเนินนโยบาย QE Tapering ในการประชุมครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าติดตามเพิ่มเติม คือมุมมองของ FED ต่อแนวทางการปรับดอกเบี้ยนโยบายในปี 65 หลังตลาดคาดว่า FED จะปรับดอกเบี้ยขึ้น 2 ครั้งในปีหน้า และอาจจะปรับขึ้นครั้งแรกในเดือน ก.ค. 65
- Advertisement -