KS Daily View 12.06.2024 >>> ผลประชุม FOMC/ กนง. อาจทำหุ้นไทยผันผวน คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1,310 – 1,325 จุด แนะนำ BEM, MTC
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,310-1,325 จุด มองนักลงทุนรอพิจารณาผลการตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกล, ผลการประชุม กนง. และ FOMC ในช่วงข้ามคืนวันนี้ ประเด็นเรื่องความไม่แน่นอนภายในประเทศยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทย ด้านผลการประชุม กนง. เราประเมินอาจไม่ได้มีผลต่อตลาดมากเพราะคาดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ขณะที่ในส่วนของการประชุม FOMC ในช่วงข้ามคืน เรามองน่าจะเป็นประเด็นที่ควรจับตา แม้ Fed มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50% เช่นเดียวกัน แต่คาดว่าอาจมีการปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยใน dot plot จากเดิมที่ สมาชิก Fed ส่วนใหญ่มองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้ง อาจถูกปรับลดลงเหลือ 1-2 ครั้งในปีนี้ ตามที่ตลาดมอง นอกจากตัวเลข dot plot เรามองคำแถลงการณ์หรือ statement ของ Fed มีความสำคัญเช่นเดียวกันว่าจะออกมาในเชิง hawkish หรือ dovish เนื่องจากจะมีกระทบต่อ sentiment และทิศทางดัชนีตลาดในระยะถัดไป
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลวันนี้ รอติดตามว่าศาลจะพิจารณาอย่างไรหลังพรรคก้าวไกลได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยลุ้นจะเรียกไต่สวนพยานเพิ่มเติมเพื่อสู้คดีตามคำขอหรือไม่
2.กนง.มีกำหนดประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ โดยจะแถลงผลการประชุมในช่วงบ่าย ตลาดคาด กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% อย่างไรก็ดี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า อยากเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุม กนง. หลังตลาดหุ้นไทยร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปีเป็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยเฉพาะหลังธนาคารยุโรปมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว กนง. ควรพิจารณาตาม ทั้งนี้หากคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายมองเป็น sentiment บวกกับกลุ่มธนาคาร (Bank) แต่หากปรับลดจะเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน (Finance)
3.ประชุมครม.วงเล็กวานนี้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ นายกฯ ได้มอบให้ปลัดกระทรวงพลังงานเข้าเจรจากับผู้ค้ารายใหญ่ ได้ข้อสรุปว่า ผู้ค้ารายใหญ่ เช่น บมจ.ปตท. (PTT) และบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ซึ่งตกลงจะซื้อ B100 ที่ราคาประกาศ 30 บาท จาก 27 บาท ต่อลิตร อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบระหว่าง กองทุนน้ำมัน ผู้บริโภค หรือผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมัน หากเป็นกรณีที่ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันเป็นผู้รับผิดชอบ มองเป็นลบกับ OR และ PTG
4.ครม.มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็น 17-45 บาท โดยเริ่ม 3 ก.ค. 67 นี้ มอง sentiment บวกกับ BEM
5.PTTEP ได้ประกาศการลงทุน 10% ในสัมปทาน Ghasha สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากบริษัท Wintershall Dea Middle East GmbH ที่มีแหล่ง Petroleum ทั้งหมด 9 แหล่งที่สามารถมีกำลังการผลิตผลิตก๊าซได้มากกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปี 2030
6.ตลาดคาดสหภาพยุโรป (EU) เตรียมเผยแผนอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนในสัปดาห์นี้ โดยประเมินว่าอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20-30% เพื่อเป็นการตอบโต้การอุดหนุนทางการเงินยานยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลจีน
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
BEM: ราคาพื้นฐานที่ 10.33 บาท
มองบริษัทได้ sentiment บวกหลังครม.มีมติให้ปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินขึ้น อีกทั้งวันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีนัดอ่านคำพิพากษาคดีพิพาทโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หากศาลตัดสินตามความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีที่ได้ให้ความเห็นควรยกฟ้องก็จะเป็นบวกกับบริษัท ขณะที่ด้านพื้นฐาน ราคาหุ้นยังถูกเทรดต่ำกว่าราคาพื้นฐาน โดยเฉพาะเราทำสมมติฐานคาดการณ์กำไรเติบโตน้อยกว่าตัวเลขที่ผู้บริหารประเมิน ทำให้อาจมี upside จากตัวเลขและมีโอกาสปรับประมานการขึ้น
MTC: ราคาพื้นฐานที่ 52.0 บาท
มองเรื่องแรงขายปรับ rebalance MSCI กดดันจบแล้วเดือนก่อน ขณะที่พื้นฐานดูดีเริ่มฟื้นตัว โดยประเมินกำไร 2Q24 เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ จากการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นและการคุม cost to income ที่ทำได้ดี อีกทั้งการจัดการ Asset quality ถือว่าเหนือกว่ากลุ่ม ด้าน sentiment เองมองได้อานิสงค์บวกจากการที่มีกลุ่มลูกค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตรมากที่สุด ดังนั้นมาตรการภาครัฐช่วงนี้ที่ออกมา กอปรกับราคาสินค้าเกษตรก็ปรับตัวดีขึ้นด้วยถือเป็นบวกต่อบริษัท
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อจีน (China CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +0.4% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.3% YoY ต่อด้วยการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% และติดตามตัวเลขเงินสหรัฐฯ (US CPI) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.4% YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Core CPI ตลาดคาดที่ +3.5% YoY ลดลงจาก +3.6% YoY ในเดือนก่อนหน้า และสุดท้ายช่วงข้ามคืนติดตามผลการประชุม FOMC โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50%
- วันพฤหัสฯ ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน พ.ค. ตลาดคาดที่ +2.50% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.20% YoY และการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งตลาดคาดที่ 2.25 แสนตำแหน่ง เทียบกับตัวเลขรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.29 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.00-0.10% และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 0.1% MoM ต่อด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เบื้องต้น (UoM) เดือน มิ.ย. โดยตลาดคาดที่ 72 จุด เพิ่มขึ้นจาก 69.1 จุดในเดือนก่อนหน้า