ที่ประชุม กนง. คงดอกเบี้ย บวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.09% รับแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.83% สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกลดลงจากการลดดอกเบี้ยที่น้อยกว่าครั้งก่อน

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมาที่ประชุม กนง. มีมติ 6 : 1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว ขณะที่การส่งออกขยายตัวในระดับต่ำ โดยสินค้าส่งออกบางกลุ่มมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข่งขันที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับขึ้นและประเมินว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายตั้งแต่ 4Q24 คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพ โดยที่คณะกรรมการ 1 ท่านเห็นว่าควรปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เพื่อให้ สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำจาก ปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 2.6%YoY และปีหน้า 3%YoY โดยเศรษฐกิจปีนี้ได้แรงส่งจากอุปสงค์ในประเทศที่สูงกว่าคาด มองบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก (AOT CENTEL CPALL HMPRO MINT) ส่วนผลประชุม FED เมื่อคืนที่ผ่านมาคงดอกเบี้ยระดับเดิมสอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจยังคงการเติบโตไว้ที่ 2.1%YoY ในปี 24 และปี 25 ที่ 2%YoY (ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมเดือนมี.ค.) อย่างไรก็ตามปรับเงินเฟ้อ PCE ปีนี้ขึ้นเป็น 2.6%YoY จากประชุมเดือน มี.ค. ที่ 2.4%YoY พร้อมกับเงินเฟ้อพื้นฐานปีนี้เป็น 2.8%YoY จากประชุมครั้งก่อนที่ 2.6%YoY ในส่วนของเส้นทางดอกเบี้ย (Dot Plot) ประเมินดอกเบี้ยปลายปีจะอยู่ที่ 5.1% หรือคิดเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งภายในปีนี้ เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 3 ครั้งในปีนี้ ถ้อยแถลงของประธาน FED พบว่าคงยืนยันว่าดอกเบี้ยจะไม่ปรับขึ้นแล้ว และระบุว่าตลาดแรงงาน ล่าสุดนั้นอาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่ถึงกระนั้นก็ยังประเมินว่าไม่มั่นใจที่จะรีบลดดอกเบี้ยแม้ว่าเงินเฟ้อในเดือน พ.ค. จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และย้ำยังต้องการข้อมูลที่ดีมากขึ้นกว่านี้เกี่ยวกับเงินเฟือ พร้อมเน้นย้ำเป้าหมายที่ระดับ 2% แม้เงินเฟือสหรัฐฯจะปรับลงมาจาก 7% แต่ถึงกระนั้น ณ ปัจจุบันก็ยังสูงเกินไป ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2,10 ปีปรับลงพร้อมกับ Dollar Index ที่อ่อนค่าสะท้อนถึงการผ่อนคลายของนักลงทุน เมื่อผสานกับดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ยังไม่ปรับลงเร็วๆ นี้จึงคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB TTB) นอกจากนี้จะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจไทยที่ค่อยๆฟื้นตัว ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ (PPI) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.5%YoY หากแย่กว่าคาดการณ์จะเป็น ปัจจัยหนุนให้กับตลาดหุ้น

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1310 – 1325 กลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวครึ่งปีหลัง แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคาร พาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) ขนส่ง (BEM)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 187.00 บาท)

เราชอบ BBL เนื่องจาก (1) งบดุลแข็งแกร่งรับมือกับความไม่แน่นอน (2) ความสามารถการทำกำไรดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2024-25 ROE เป็นขาขึ้นและใกล้เคียงกับในปี 2019 และ (3) มูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่ 0.5x PBV’24E หรือ -ISD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และต่ำกว่า 0.7 เท่า สิ้นปี 2019

BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท)

สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มมีความชัดเจนมากขึ้นหลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง โดยคาดว่าจะเช็นสัญญาได้ช่วงปลายปีนี่ เราประเมินสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีสัม 1.5 บาท/หุ้นนอกจากนี้เราคาดกำไร 2Q24 เติบโตทัง YoY และ QoQ ตามจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 10.00 บาท (เดิม 9.3 บาท) หลังรวมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่ปรับลดธุรกิจทางด่วนลงเพื่อสะท้อนปริมาณการจราจรบนทางพิเศษที่ต่ำกว่าคาด

- Advertisement -