การเมือง การเมือง และการเมือง / 1,300- 1,315

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET ลงได้อีก : หลังปัจจัยหนุนใหม่ยังค่อนข้างจำกัด และภาพการเมืองภายในยังทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่ดีนัก โดยปัจจัยกดดันที่ตลาดให้ความสนใจใกล้ชิดได้แก่ 1) ความกังวลด้านการเมือง ล่าสุดนายกหารือกับทีมกฎหมาย และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้เจ้าพนักงาน โดยคาดว่าจะสามารถชี้แจงข้อมูลได้ แต่รายละเอียดที่ชี้แจงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในระหว่างดำเนินการ จึงมองวันที่ 17 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันที่ศาลรธน.กำหนดให้ส่งหลักฐาน/ข้อมูลเพิ่ม จะเห็นความคืบหน้ามากขึ้น ด้านคดีอื่น คือ คดียุบพรรคก้าวไกล และการกระทำผิดมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร มองอาจมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจของนักลงทุนน้อยกว่า เนื่องจากกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลจำกัด ในระยะสั้นความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจทำให้นลท.ลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงไปก่อน 2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปรับตัวลงสู่ระดับ 60.5 จุด ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากความกังวลด้านการเมือง และการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ รวมถึงราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึน แม้มีภาพการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ และมาตรการลดภาษีท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มเติม แต่ค่าครองชีพที่ไม่พอรายจ่ายยังกดดันภาพความเชื่อมั่น ทำให้ภาพดัชนีความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นตัว นอกจากนี้ ม.หอการค้าไทยยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ไทยลงจาก 2.7% เหลือ 2.5% กดดันบรรยากาศการลงทุน ด้านปัจจัยน่าติดตามอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ คาดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% แต่เน้นให้น้ำหนักกับคาดการณ์ของ BoJ เนื่องจากมองอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย และอาจมีการส่งสัญญาณลดการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม สัปดาห์หน้าติดตามอัตราการว่างงาน และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเดือน พ.ค. , CPI เดือนพ.ค.ยูโรโซน และยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.สหรัฐ

กลยุทธ์การลงทุน : 1) Short stock: SAWAD, TIDLOR, KTC, AP, ORI, CPN 2) Defensive: ADVANC, CHG, INTUCH, TTW 3) AI/Data Center: DELTA, KCE, HANA 4) SET50/100: ITC, PRM และ 5) Selective: SISB, MASTER, KBANK, KTB

ปัจจัยบวก

  • ททท. อยู่ระหว่างการทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินและโรงแรม เช่นจองโรงแรม 10 คืน พักฟรี 1 คืน หรือจองโรงแรม 5 คืน ฟรีดินเนอร์เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์หรือพักระยะยาวในไทยนานขึ้น และเกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
  • เกาะช้างถูกคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายทางฮันนีมูนที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีความคุ้มค่าด้านค่าใช้จ่าย มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย และมีประสบการณ์พิเศษจากการท่องเที่ยว
  • สนพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) และร่าง Gas Plan 2024 คาดจะมีกำลังการผลิตใหม่อีก 60,208 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าปี 2567-2580 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.87 บาท คาดจะประกาศใช้แผนในเดือนก.ย. 2567 เป็นบวกต่อภาพต้นทุนพลังงานของระบบเศรษฐกิจ

ปัจจัยลบ

  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพ.ค.67 อยู่ที่ระดับ 60.5 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่ ธ.ค.66 จากความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศเป็นสำคัญ
  • นักเศรษฐศาสตร์ชีกลยุทธ์ลดแลกแจกแถมของธุรกิจค้าปลีกจีน มีความเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้บริโภคยึดติดกับการใช้จ่ายที่จำกัดจนอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด
  • ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยุโรปออกมาชะลอตัวสู่ระดับ -3%y-y และ 0.1%m-m ชะลอตัวมากกว่าที่ตลาดคาดที่ -1.9%y-y และ 0.1%m-m
  • กรมการค้าภายใน เผยอากาศร้อนนาน กระทบการโตของไก่เนื้อ อาจทำให้อุปทานเนื้อไก่ในปีนี้ลดลง เนื่องจากต้องใช้เวลาเพาะเลี้ยงนานขึ้น ล่าสุดราคาไก่สดทั้งตัวปรับขึ้นแตะระดับ 75-85 บาท/ตัว

PICKS OF THE DAY

DELTA BUY

  • เป้าหมาย 81.00 / 84.00 แนวรับ 77.00
  • ยุโรปเพิ่มภาษี EV จีน: ยุโรปเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ EV จีน จากเดิมที่เก็บภาษี 10% โดยปรับขึ้นสูงสุดที่ 38.1% ขึ้นอยู่กับความร่วมมือในการให้การสอบสวน มีผลบังคับใช้ 4 ก.ค. 67 แม้ตลาดจะมองว่าปรับเพิ่มขึ้นไม่เยอะ โดย BYD ถูกเรียกเก็บเพียง 17.4% แต่ก็ถือว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการในยุโรปมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น และถือได้ว่ายังสนับสนุนต่อนโยบายด้านพลังงานสะอาด ตรงต่อทิศทางธุรกิจของ DELTA ที่เน้นขยายธุรกิจ EV car และลูกค้าอยู่ในยุโรปและสหรัฐฯ
  • แนวโน้มดีขึ้น: แนวโน้มรายได้ 2Q67 ฟื้นตัว q-q เล็กน้อย เห็นสัญญาณลูกค้า EV car ในยุโรปดีขึ้น และจะไม่มีการตั้งสำรองการปรับมูลค่ายุติธรรมวัตถุดิบเหมือน 1Q67 ที่เป็น ค่าใช้จ่าย 1 time คาดจะมีผลการดำเนินงานหลักดีขึ้น q-q และจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วง 2H67

SAWAD SHORT

  • เป้าหมาย 36.00 / 37.00 แนวต้าน 39.50
  • เสี่ยงหลุด SET50: ทางฝ่ายรวมไปถึงตลาดคาดว่า SAWAD อาจจะหลุดจากการคำนวณดัชนี SET50 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ก.ค. 67 โดยหากหลุดจริงอาจจะส่งผลให้มีแรงขายออกมาจากนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนตามดัชนี SET50 ได้
  • ต้นทุนดอกเบี้ย และ NPL ยังกดดัน: จากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ในรอบการประชุมล่าสุดยังไม่มีการปรับลด ทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของ SAWAD น่าจะเพิ่มขึ้นต่อ ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง และสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจะทำให้ NPL ของ SAWAD เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการตั้งสำรองให้ยังคงสูงกดดันผลประกอบการ
- Advertisement -