เราคาดกรอบ SET รายสัปดาห์ที่ 1285-1335 จุด โดย ตลาดหุ้นไทยยังคงโดนกดดันจากปัจจัยการเมืองชัดเจน สอดคล้องกับมุมมองของ CGSI

  • เราคาดกรอบ SET รายสัปดาห์ที่ 1285-1335 จุด โดย ตลาดหุ้นไทยยังคงโดนกดดันจากปัจจัยการเมืองชัดเจน สอดคล้องกับมุมมองของเราว่าคดีสำคัญทางการเมืองสามคดีที่สะเทือนตลาดหุ้นไทย: คดีนายทักษิณ ผิดมาตรา 112, คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี เศรษฐา และ คดียุบพรรคก้าวไกลน่าจะกดดันตลาดไปอีกสองถึงสามเดือน / จับตาวันที่ 18 มิ.ย. ศาลรธน.ตัดสินคดียุบพรรคก้าวไกลและคุณเศรษฐา
  • ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงปัจจุบันเน้นหุ้น Mid-Small cap / Earnings 2Q, 2H24 แข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT, Hospital)
  • สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจติตตาม 1) ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐ (+0.3% mom) และ ยอดการผลิตอุตสาหกรรม (+0.4% mom) 2) ตัวเลขยอดค้าปลีกจีน (+3% yoy) และ ยอดการผลิตอุตสาหกรรม (+6.1% yoy) และ 3) เงินเฟ้อยุโรป
หุ้นแนะนำ
  • ADVANC
    • AIS ซื้อขายที่ EV/EBITDA 6.7x ในปี FY24 และ P/BV 6.6x ในปี FY24 เท่ากับ -2SD ของค่าเฉลี่ย 4 ปี โดย ปัจจัยบวกที่จะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นคือการ แข่งขันที่ลดลง, ARPU ที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากการ ให้บริการที่เติบโตสูงขึ้นในปี FY24-26
    • (Take profit : 216.00 / Stop loss : 207.00 )
  • KLINIQ
    • KLINIQ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขาในประเทศไทยเป็น 100-120 สาขาภายในสิ้นปี 2027 จาก 65 สาขา ณ สิ้น 1Q24 ด้วยการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด mass และจากการนำเสนอบริการเพิ่ม
      เราคาดว่า KLINIQ จะมี EPS เติบโตเฉลี่ย 20% CAGR ในปี FY23-26 และ แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 58 บาท เท่ากับ P/E 29.4x ในปี FY25 หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม
    • (Take profit : 43.25 / Stop loss : 40.25 )

Daily Global Market | 17 มิถุนายน 2024

In News:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ระดับนิวไฮ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีและความคาดหวังที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงจาก 69.1 ในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลงสู่ 65.6 ในเดือนมิถุนายน ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีและ 5 ปีลดลงสู่ระดับ 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ จาก 3.1% และ 2.9% ในเดือนก่อนหน้า ด้านคาดการณ์เงินเฟ้อ 1 ปีเบื้องต้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 3.3% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.2%
  • ข้อมูลการผลิตภาคผู้ผลิตที่ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคม และดัชนีราคาผู้บริโภคที่ชะลอตัวมากกว่าคาด ส่งสัญญาณภาวะเงินฝืดกำลังเกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ภายในปลายปีนี้
  • ดัชนีราคานำเข้าประจำเดือนพฤษภาคมลดลง 0.4% MoM ปรับตัวลงครั้งแรกนับแต่ธันวาคม 2023 จากการปรับตัวลงของราคาอาหารและพลังงาน หากพิจารณารายปี ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 1.1% YoY ส่วนดัชนีราคาส่งออกร่วงลง 0.6% MOM ขณะที่เพิ่มขึ้น 0.6% YoY
  • ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นาย Emmanuel Macron ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พร้อมกับประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ 2 รอบในวันที่ 30 มิถุนายน และ 7 กรกฏาคม นักลงทุนยังคงวิตกกับความเป็นไปได้ของชัยชนะพรรคประชานิยม National Rally ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด หลังจากพรรคชนะการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
  • นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่รายงานข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษ และการประชุมนโยบาย BoE สัปดาห์นี้ ก่อนจะมีการเลือกตั้งในอังกฤษวันที่ 4 กรกฏาคม
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0%-0.1% ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ ธนาคารยังตัดสินใจปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
  • ผลสำรวจ Reuters ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทั่วประเทศญี่ปุ่นน่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.6% YoY ในเดือนพฤษภาคม จาก 2.2% ในเดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณไปยังธนาคารกลางให้เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้ว่า ดัชนี Core CPI ซึ่งไม่รวมอาหารสด จะได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นภาษีพลังงานหมุนเวียน แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่แคบลง น่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย
  • ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เป็นการประชุมครั้งที่ 5 ติดต่อกันในวันอังคารนี้ พร้อมมีคาดการณ์ว่า การลดดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2%-3% นับตั้งแต่ปลายปี 2021 และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4% ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่าการลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ไม่น่าจะเป็นไปได้

Stock Movement

  • หุ้น Boeing Co. (BA NYSE) ร่วงลง 1.90% หลังสำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ (FAA) เปิดเผยว่า กำลังสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า Boeing และบริษัทคู่แข่ง Airbus SE (AIR EPA, -1.36%) อาจใช้ไทเทเนียมปลอมในการผลิตเครื่องบิน
  • หุ้น GameStop Corp. (GME NYSE) ปรับลง 1.44% แม้จะมีข่าวที่ว่า นาย Keith Gill หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Roaring Kitty เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเกือบเท่าตัว จาก 5 ล้านหุ้น เป็น 9 ล้านหุ้น นอกจากนี้ GameStop ยังประกาศเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเป็นวันที่ 17 มิถุนายน หลังจากประสบปัญหาทางเทคนิคเมื่อวันพฤหัสบดี
  • หุ้น Adobe Inc. (ADBE ND) ทะยานขึ้น 14.51% หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและปรับเพิ่มคาดการณ์ประจำปี 2024 เนื่องจากความต้องการเครื่องมือตัดต่อภาพที่ใช้ AI ของบริษัทเพิ่มขึ้นสูง
  • หุ้น Well Fargo & Co. (WFC NYSE) ขยับขึ้น 0.23% หลังธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐปลดพนักงานมากกว่า 10 รายด้วยข้อกล่าวหาที่ว่ามีการแอบจำลองการใช้งานคีย์บอร์ดเพื่อให้บริษัทเข้าใจว่า พวกเขากำลังทำงานอยู่
  • หุ้น Microsoft Corp. (MSFT ND) ปรับบวก 0.22% บริษัทประกาศว่า จะไม่ออกตัว Recall ฟีเจอร์ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะติดตามการใช้งาน พร้อมกับคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่สัปดาห์หน้า และจะใช้กับกลุ่มเล็กๆ ภายหลังแทน ท่ามกลางความกังวลความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ คุณสมบัติ Recall ติดตามการท่องเว็บไปจนถึงการแชทด้วยเสียง สร้างประวัติจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ผู้ใช้สามารถค้นหาเมื่อจำเป็นต้องจดจำสิ่งที่พวกเขาทำ แม้จะผ่านไปหลายเดือนก็ตาม
  • หุ้น Tesco Plc. (TSCO LON) ไต่ขึ้น 2.64% หลังกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่สุดของอังกฤษรายงานยอดขายรายไตรมาสในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น 4.6%
  • หุ้น Xiaomi Corp. (1810 HK) ปิดลบ 1.48% Xiaomi Automobile ประกาศในโซเชียลมีเดียในจีนว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 ทะลุ 20,000 คัน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์ว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ประจำเดือนมิถุนายนจะเกิน 10,000 คัน และมั่นใจว่า จะสามารถส่งมอบรถยนต์ได้ทั้งปี 100,000 คัน โดยตั้งเป้าหมายสูงสุดที่ 120,000 คัน
  • หุ้น Chow Tai Fook (1929 HK) ดิ่งลง 8.88% บริษัทเผยผลประกอบการช่วง FY2024 สิ้นสุดเดือนมีนาคม ที่มีรายได้โตขึ้น 15% YoY ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของผู้บริหารและตลาด ขณะที่กำไรสุทธิไม่เป็นไปตามคาดของตลาด สาเหตุหลักมาจากการสูญเสียที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินเชื่อทองคำ ท่ามกลางราคาทองคำที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ทาง BofA Securities กล่าวว่า ตลาดรู้สึกผิดหวังที่บริษัทไม่จ่ายเงินปันผลพิเศษ
  • หุ้น China Hongqiao Group Ltd. (1378 HK) ขยับขึ้น 1.02% บริษัทส่งสัญญาณการทำกำไร โดยคาดว่า กำไรสุทธิสำหรับ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายนมีแนวโน้มพุ่งขึ้นราว 220% สาเหตุหลักมาจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์โลหะผสมอะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์อลูมินาของกลุ่ม ซึ่งส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงฐานกำไรสุทธิที่ลดลงในช่วง 1H2023
- Advertisement -