ปัจจัยสำคัญวันนี้ได้แก่การเมือง
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.5% แต่ดัชนี S&P500, Nasdag ปิดทำ New High ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Technology ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.97% โดยปรับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา จีนได้รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 5.6%YoY ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.2%YoY แต่รายงานยอดค้าปลีกเติบโต 3.7%YoY ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3%YoY ส่วนสหรัฐฯ เมื่อคืนรายงานดัชนีภาคผลิต New York ที่ระดับ -6 ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ -12.5 โดยรวมกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปี ปรับขึ้น ส่วน CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนักที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนด้วยโอกาส 56.7%
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้จะเน้นหนักที่การเมืองภายใน ประกอบไปด้วย (1) การยุบพรรคก้าวไกล โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยว่ากรณีเสนอนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นเข้าลักษณะกระทำอันเป็นการปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ทั้งนี้หากพรรคก้าวไกลถูกยุบก็อาจนำไปสู่การตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งนี้หากพรรคก้าวไกลถูกยุบคาดว่าผลกระทบต่อตลาดจะไม่สูงมากเพราะไม่ใช่ฝั่งรัฐบาล (2) นายกรัฐมนตรีถูกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 ท่าน ขอให้ศาลพิจารณาความเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน ในกรณีแต่งตั้งคุณพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่คุณพิชิต ชื่นบาน ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือนในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ทั้งนี้หากศาลตัดสินว่า คุณเศษฐา ทวีสิน ต้องหลุดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องหลุดจากตำแหน่ง และจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ในส่วนของผลกระทบต่อตลาดหุ้น เราให้น้ำหนักกับการถอดถอนนายกรัฐมนตรีมากกว่าพรรคก้าวไกล เพราะมีผลกับการบริหารประเทศ ทั้งนี้ตั้งแต่มีข่าว 40 สว.ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีก็พบว่า SET ปรับลงมาต่อเนื่องแล้ว 6% ก็เชื่อว่าตลาด Price In ปัจจัยข้างต้นไปบ้างแล้ว และถ้าหากว่าต้องหลุดจากตำแหน่งก็เชื่อว่า Downside จะเริ่มจำกัด และอาจเป็นการปรับฐานครั้งสุดท้าย ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM หากแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้น
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1285 – 1305 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิม เพราะมองถึงการฟื้นตัวช่วงถัดไป และเชื่อว่าการเมืองในประเทศจะจบลงด้วยดี แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ส่งออก (ITC TU) เครื่องดื่ม (CBG ICHI TACC) ขนส่ง (BEM) ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิใน 1Q24 ที่ 1.87 หมื่นล้าน (-3%YoY, +2%QoQ) ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยปริมาณการขายทรงตัวที่ 473 KBOED (+3% YoY, 0%QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับสูงขึ้น (ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) หักลบกับ Algeria HBR ที่ปริมาณการขายลดลง ในขณะที่ราคาเฉลี่ย (ASP) อยู่ที่ 47.2 US$/BOE (-6%YoY, -2%QoQ) ตามราคาก๊าซและน้ำมันที่ปรับตัวลง โดยแนวโน้มในไตรมาสถัดไปคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน (1Q24: 81.7 US$/bbl, 2QTD : 87.8 US$/bbl) และปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากแหล่งผลิตในไทยและเมียนมา
TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 75.00 บาท)
แนวโน้มในไตรมาสถัดไป Singapore GRM ชะลอตัวลง QoQ จากฐานที่สูง (1Q24: 7.3 US$/bbl, 2QTD : 3.7 US$/bbl) เราคาดว่า Downside เริ่มจำกัดมากขึ้นจากปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคและสินค้าคงคลังของน้ำมันเบนซินอยู่ในระดับต่ำก่อนเข้าสู่ฤดูการขับรถของสหรัฐ