จะไปต่อ หรือพอแค่นี้ / 1,285- 1,305

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวอิงทางลง : แรงกดดันจากการเมืองภายในประเทศและความกังวลนโยบายการเงินตึงตัวของเฟด หากแต่ถูกพยุงด้วยหุ้นที่มีปัจจัย/แรงหนุนเฉพาะตัว และการเรียกความเชื่อมั่นของตลท. ทั้งนี้ มองการเมืองไทยยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญโดยวันนี้ติดตาม 1) คดียุบพรรคก้าวไกล 2) คดี สว. 40 คนยื่นถอดถอนนายกฯ 3) คดีมาตรา 112 ของคุณทักษิณ และ 4) การได้มาซึ่งสว.ขัดแย้งกับรธน.หรือไม่ ซึ่งทางฝ่ายให้น้ำหนักกับคดีของนายกฯ โดยหากยังไม่มีการพิจาณาชี้ขาดในวันนี้ มองจะเป็น Overhang กดดันต่อไป ท่ามกลางความกังวลเสถียรภาพของการเมืองและความต่อเนื่องของงบประมาณภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนศก. อีกทั้ง ความกังวลข้างต้นยังกดดันให้ Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง สอดรับกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิ 18 วันทำการติดต่อกัน นอกจากนี้ คาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจะถูกกดดันจาก US bond yield 10ปี ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% หลังนายนีล แคชแครี ปธ.เฟดมินนีแอโพลิสเผยว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เจ้าหน้าที่เฟดจะคาดว่า FOMC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.67 อย่างไรก็ตาม มองทางลงจำกัด โดยคาดได้แรงพยุงจากการเข้าสะสมหุ้นที่ถูกประกาศเข้า SET50/100 รอบ 2H67 และ FTSE Rebalance ที่มีแนวโน้มผลประกอบการดี อีกทั้ง ติดต่ามตลท.แถลงความคืบหน้าของการดำเนินการมาตรการยกระดับความเชื่อมั่นในวันนี้ รวมถึงการแถลงทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการเพิ่ม Uptick Rule รายหลักทรัพย์ที่จะมาใช้แทน Zero-plus Tick ที่จะเริ่มใช้มาตรการวันที่ 1 ก.ค.67 ซึ่งอาจเป็น Sentiment ทางบวกต่อ SET Index ขณะที่ด้านตัวเลขศก.เดือนพ.ค.67 ติดตาม 1) CPI ของยูโรโซนตลาดคาดขยายตัว 2.6% y-y และ 0.2% m-m จาก 2.4% y-y และ 0.6% m-m ในเดือนเม.ย.67 และ 2) ยอดค้าปลีกและการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดเท่ากันที่ 0.3% m-m หลังทั้งสองรายการอยู่ที่ 0.0% m-m ในเดือนเม.ย.67
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Global play: AMATAV, DELTA, PTTEP, SAPPE, STA, TFG, 2) FTSE Rebalance: BH 3) SET50/100: BA, ITC, PRM 4) Defensive: ADVANC, TW 5) Uptick Rule: AOT, BEM, HANA, SPRC, TOP และ  6) Short-sell: COM7, ORI, SAWAD

ปัจจัยบวก

  • SME D Bank ร่วมทัพมอบบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” ในงาน “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ปี 2567” จัดโดยส.อ.ท. เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกของ ส.อ.ท. และผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่เตรียมไว้รองรับวงเงินรวมมากว่า 20,000 ลบ.
  • คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำจะได้ Sentiment หนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.4% ปิดที่ $80.33 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.67 ท่ามกลางมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้ม อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก กอปรกับรมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย ยืนยันว่า OPEC+ สามารถระงับหรือยกเลิกการเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน

ปัจจัยลบ

  • รมช.คลังเผยภายหลังการประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเลตว่า นายกฯได้สั่งให้ก.พาณิชย์กลับไปทบทวนเรื่องสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้านำเข้า อาทิ สมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ข้อสรุปว่าสินค้าดังกล่าวสามารถเข้าร่วมโครงการได้
  • สเตรทไทม์สรายงานว่าการท่องเที่ยวขาออกของจีนที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า จากการแพร่ระบาดของโควิดนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อบริษัทท่องเที่ยวโรงแรม และบริษัทค้าปลีกทั่วโลก เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสายการบิน
  • เลขาธิการนาโตเผยว่า นาโตกำลังหารือกันเรื่องเอาอาวุธนิวเคลียร์จากคลังแสงออกมาเตรียมพร้อมใช้งาน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซียและจีน

PICKS OF THE DAY

BH BUY

  • เป้าหมาย 250.00 / 255.00 แนวรับ 235.00
  • Defensive: ในช่วงที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบผันผวนหรือลดลง หุ้นที่เหมาะสมคือหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวตามตลาดในสัดส่วนที่ต่ำกว่า หรือที่เรียกว่า Beta ต่ำ ทั้งนี้ ทาง BH เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีค่า Beta ต่ำ ที่ 0.53 ซึ่งช่วยในการป้องกันเงินลงทุน และเป็นหุ้นที่มีนโยบายทางภาครัฐสนับสนุนเสมอในการการทำให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub
  • เข้าร่วม FTSE SET Large Cap Index: ทาง FTSE SET Large Cap Index มีการปรับหลักทรัพย์เข้าให้ใหม่ คือ BH ที่ผ่านเกณฑ์ ทั้งนี้การที่ BH ได้เข้าในดัชนีดังกล่าว จะช่วยเพิ่มแรงซื้อ จากการที่กองทุนที่อิงกับดัชนีดังกล่าวได้ทำการซื้อหุ้น BH เพื่อปรับโครงสร้างพอร์ตการลงทุนของกองทุน

SAPPE BUY

  • เป้าหมาย 105.00 / 107.00 แนวรับ 99.00
  • 1Qโตดี ภาพทั้งปีโตต่อ แถม 2Q ยังเป็น High Season : กำไรใน 1Q67 ทำสถิติเป็นกำไรรายไตรมาสที่มากที่สุด และ เติบโตกว่า 28.2%y-y จากการเติบโตของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ผู้บริหารวางเป้าทั้งปีคงการเติบโตของรายได้ที่ 20-25% และเตรียมออกสินค้าใหม่เพิ่มเติมกว่า 20 SKUs และ 2Q คาดผลประกอบการจะออกมาดีต่อ เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ
  • รับประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อน : ค่าเงินบาทใน 2Q67 อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดที่ 37.13 บาทต่อดอลลาร์ โดยอ่อนค่าลงเฉลี่ยเทียบ 1Q67 กว่า 2.70% นอกจากนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐยังกดดันให้ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่มีสัดส่วนส่งออกกว่า 83% ของรายได้รวม

 

 

- Advertisement -