KWM รุกต่อยอดธุรกิจ ผนึกพันธมิตรจัดตั้งบริษัทร่วมทุน KWHB ทุ่มงบ 40 ล้านบาท ลุยสร้างโรงงานสกัดพืชสมุนไพรไทยออกสู่ตลาด ขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำการสกัดพืชสมุนไพรไทยแบบครบวงจร คาดเดินเครื่องสกัดได้เดือนช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า ประเดิมสกัดใบกระท่อม ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยา สู่ตลาด พร้อมตั้งเป้า 5 ปี คองส่วนแบ่งมาร์เก็ตแชร์ 10% จากมูลค่าตลาดรวม 10,000-20,000 ล้านบาท

 

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด(มหาชน) หรือ KWM และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ KWHB โดย KWM ถือหุ้น 51% โดยมีพันธมิตรหลักคือ บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด ถือหุ้นอีก 40% ส่วนที่เหลืออีก 9% เป็นกลุ่มพันธมิตรอื่นๆ เพื่อดำเนินธุรกิจสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพร อาทิ ฟ้าทะลายโจร พืชกระท่อม มะขามป้อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นต้น โดยบริษัทดังกล่าว มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

ทั้งนี้ KWHB ตั้งงบลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโรงงาน และการติดตั้งเครื่องสกัด ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงาน และทยอยติดตั้งเครื่องจักรเพื่อสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร โดยเบื้องต้นคาดว่าโรงงานดังกล่าวจะแล้วเสร็จ และสามารถเดินเครื่องสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พร้อมทั้งคาดว่าจะสามารถนำสารสกัดที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา เครื่องดื่ม และอื่นๆ ได้ทันที

โดยในระยะแรกของการดำเนินงานของโรงสกัด บริษัท KWHB จะมีการใช้พืชใบกระท่อมมาเป็นตัวหลักในการสกัดสารสำคัญ ภายหลังจากรัฐบาลประกาศปลดล็อกพืชกระท่มออกจาก พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และยา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3-4 เดือนหลังจากที่ดำเนินการขอ และหากกระบวนการทุกอย่างแล้วเสร็จคาดว่าจะเริ่มทยอยออกผลิตภัณฑ์พร้อมทำการตลาดสินค้าจากพืชสมุนไพร ประมาณ 5-10 ผลิตภัณฑ์ได้ภายในช่วงต้นปี 2565

นอกจากนี้ KWHB ยังมีการศึกษาการสกัดพืชสมุนไพรอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เพิ่มเติม เพื่อที่จะนำสารสกัดไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยปัจจุบันขนาดตลาดของสารสกัดมีมูลค่ามากกว่า 10,000-20,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี (2565-2569)  จะมีเป้าแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาด ของตลาดสกัดสารสำคัญไม่ต่ำกว่า 10%

สำหรับในส่วนของ KWM ยังสามารถต่อยอดธุรกิจจากการเป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรและมีประสบการณ์ด้านงานวิศวกรรมเครื่องกล สู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องสกัดระบบ SUPERCRITICAL FLUID CO2 EXTRACTION กัญชง กัญชา และสมุนไพรไทย สัญชาติไทยเป็นรายแรกของประเทศ จนล่าสุดผนึกกำลังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยระดับต้นๆ ของประเทศ ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งการต่อยอดธุรกิจดังกล่าวเป็นการตอกย้ำถึงบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ KWM ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำการสกัดพืชสมุนไพรไทยแบบครบวงจรในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ KWM รวมถึงบริษัท KWHB มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ

ด้าน ดร.เภสัชกรหญิง ประคองศิริ บุญคง หัวหน้าทีมวิจัย บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) กล่าวว่า บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด เป็นองค์กรธุรกิจที่ก่อตั้งโดย กลุ่มแพทย์แผนไทย กลุ่มเภสัชกร นักวิจัย รวมทั้งทีมงานที่ปรึกษาเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสมุนไพรไทย มากกว่า 30 ปี ที่มุ่งเน้นให้บริการที่ปรึกษา เสนอแนะ แนวทางสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องการประกอบกิจการเกี่ยวกับพืชสมุนไพรไทย กัญชา กัญชง และกระท่อม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนั้น จึงมองว่า การดำเนินธุรกิจภายใต้ KWHB ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันธุรกิจสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพรไทย ให้แพร่หลายสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัย จะนำจุดเด่นในการนำเทคนิคการสกัดสมุนไพรในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีขั้นสูงและเครื่องจักรที่ทันสมัย มาสกัดสารสกัดที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามความต้องการของลูกค้า และตรงตามความต้องการของตลาด สู่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และสามารถสร้างความโดดเด่นที่แตกต่างจากท้องตลาดะละ BRAND อื่นๆ เพื่อตอบสนองได้ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมในแต่ละประเภท อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง สปา อาหาร อาหารเสริม ยา เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค

“การปฏิบัติงานของบริษัท ทุกขั้นตอนผ่านการวิจัย คิดค้นอย่างหนักในห้องปฏิบัติการงานวิจัยของบริษัทเอง เพื่อตรวจสอบคุณภาพและคุณสมบัติเฉพาะของสารสกัดที่ได้รับจากโรงงานสกัด ตามมาตรฐานที่ได้ทำการทดลอง วิจัย และตามที่ได้พัฒนาไว้ในเชิงคุณภาพ โดยมีการวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถนำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของผู้ประกอบการเท่านั้น” ดร.เภสัชกรหญิงประคองศิริ กล่าว

ขณะที่อาจารย์วิชัย วรรธนะโสภณ นักวิจัย บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) กล่าวว่า ทางทีมวิจัยให้ความสำคัญในเรื่องความปลอยภัยจากสารสกัดสมุนไพรเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการสกัดสารสำคัญจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพที่ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์และไม่มีความเป็นพิษ เพื่อสร้างโอกาสให้กับสมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับโลก ด้วยการใช้นวัตกรรมการสกัดที่แตกต่าง บวกกับความคิดสร้างสรรค์เชิงบวก ซึ่งใน 6 ปีก่อนมีการค้นพบว่า สมุนไพรบางชนิดสามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ได้ และยังช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ทางทีมวิจัยจึงนำสมุนไพรไปใช้ในการทำเครื่องสำอางบำรุงผิว อาหารเสริม ด้านการชะลอวัย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น และถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทย และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้อีกด้วย

นอกจากนี้ กว่า 2 ปีของงานวิจัยสารสกัดจากใบกระท่อม ภายใต้การวิจัยในเบื้องต้น สารสกัดจากใบกระท่อมของเราออกฤทธิ์เร็วขึ้น นานขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูก ไม่เป็นอันตรายต่อไต ไม่ทำให้เลือดเป็นพิษ ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาให้สารสกัดจากใบกระท่อมต่างสายพันธุ์ และสมุนไพรอื่นๆ ที่นอกจากจะทำให้อารมณ์ดี มีพละกำลังแล้ว ยังมีส่วนช่วยบำรุงสมองด้วย

“ปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำลังทดสอบสารสกัดสมุนไพร เพื่อฟื้นบำรุงผิวคอที่หย่อนคล้อย และสารสกัดสำหรับสลายไขมันหน้าท้องโดยไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องอดอาหาร และผิวท้องจะไม่หย่อนคล้อยหลังจากที่พุงยุบไปแล้ว นอกจากนี้ ในอนาคตทางทีมวิจัยจะพัฒนาและผลักดันให้สมุนไพรไทยสู่การเป็นสมุนไพรโลก ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์หลอมรวมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยเครื่องมือสกัดสมุนไพรที่ทันสมัย ห้องแลปที่มีมาตรฐานสูง ทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์และความชำนาญ ขณะเดียวกัน มองว่า งานวิจัยก่อให้เกิดนวัตกรรม และนวัตกรรมจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น” อาจารย์วิชัย กล่าว

**********************

- Advertisement -