Daily Focus 2024: Selective Play 

SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแรงโดยปรับขึ้นสูงสุดราว 14 จุด ก่อนจะมีแรงขายออกมาในช่วงบ่าย กดดันดัชนีย้อนลงมาปิดบวกเพียง 0.82 จุด ณ สิ้นวันที่ระดับ 1,297.41 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 3.8 หมื่นลบ. หลังคดียุบพรรคก้าวไกลและตำแหน่งนายกฯของคุณเศรษฐายังไม่ได้ข้อสรุปและยืดไปยังเดือน ก.ค.ดัชนีถูกถ่วงโดยกลุ่มการแพทย์ ปิโตรฯ โรงไฟฟ้า ค้าปลีก สื่อสารฯ สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 412ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 19 อีก 1.7 พันลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures 2.2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,290-1,305 จุด โดยคาดได้ Sentiment บวกอ่อนๆจากฝั่งต่างประเทศที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ขณะที่ตลาดยังคาดหวังโอกาสว่า FED อาจลดดอกเบี้ยได้ถึง 2 ครั้งปีนี้หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือน พ.ค. ออกมาต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม Upside ในการฟื้นตัวยังคงถูกจำกัดด้วยปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยัง Overhang หลังวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัด พิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลและตำแหน่งนายกฯของคุณเศรษฐารอบถัดไปในวันที่ก.ค. และ 10 ก.ค. ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการวินิจฉัยในวันดังกล่าว และต้อง ติดตามการนัดครั้งถัดไป ทำให้ข้อสรุปคาดว่าจะถูกเลื่อนไปอยู่ในช่วงปลายเดือน ก.ค.เป็นอย่างเร็ว โดยรวมจึงยังทำให้หุ้นในกลุ่ม Domestic Play ยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนและความเชื่อมั่นที่ลดลง ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Global Play ที่อ้างอิงกับเศรษฐกิจโลก เช่น ภาคการส่งออก พลังงาน คาดว่ายังเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด เราประเมินว่าหาก ปัจจัยการเมืองคลี่คลายในทางบวกจะทำให้ดัชนีพลิกกลับมาฟื้นตัวได้ ประกอบกับมาตรการ Uptick ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 ก.ค. จะเป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยจำกัด Downside ได้ใน 2H24

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาด // รอดูแรงซื้อจากฐานแนวรับถัดไปบริเวณ 1,300+- จุด

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.: CHG, CPALL, ITC, KCG, TFG

FSSIA Portfolio: AOT, BMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU

หุ้นเด่น Finansia 19 มิ.ย. 24 : ITC

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27 บาท
  • ITC มีคำสั่งซื้อในมือรองรับสำหรับช่วง 2Q24 และ 3Q24 แล้ว 110% และ 25% ตามลำดับ ทำให้คาดว่ากำไร 2Q24 จะออกมาโดดเด่นที่ 969 ลบ. +10% q-q, +124% y-y สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส 
  • หากกำไร 2Q24 ออกมาตามคาดจะทำให้กำไร 1H24 คิดเป็น 55% ของประมาณการทั้งปีที่ 3.2 พันลบ. โดยแนวโน้ม 2H24 คาดได้อานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาลโดยเฉพาะใน 4Q24 ที่คาดเป็นจุดสูงสุดของปี ช่วยชดเชยการปรับลดราคาขายลง 3-5% ได้ เราเริ่มเห็น Upside ของประมาณการราว 8-9%
  • แนวรับ 23//22.60-22.50 บาท แนวต้าน 23.80-24//24.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเร่งตัวขึ้น มีเม็ดเงินซื้อสุทธิ US$919 ล้าน โดยยังกระจุกตัวที่ใต้หวันและเกาหลีใต้ US$531 ล้านและ US$466 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังอยู่ในฝั่งไหลออก นำโดยไทย US$47 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าหลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือน พ.ค.ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ทำให้ตลาดเพิ่มความน่าจะเป็นที่ FED จะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งปีนี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) คดีการเมืองใหญ่ยังไม่มีข้อสรุป โดยเฉพาะ 2 คดีที่เกี่ยวเนื่องกับรัฐบาล-ฝ่ายค้างการยุบ/ไม่ยุบพรรคก้าวไกล ศาลนัดพิจารณาอีกครั้งวันที่ 3 ก.ค. และนัดคู่กรณีตรวจพยานหลักฐานวันที่ 9 ก.ค. ส่วนคดีพิจารณาตำแหน่งนายกฯ ของคุณเศรษฐา กรณีแต่งตั้งคุณพิชิต ชื่นบาน นัดพิจารณาวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งเราเชื่อว่าจะยังไม่มีคำตัดสิน และศาลจะมีการนัดอ่านคำวินิจฉัยอีกครั้งในช่วงถัดไป ซึ่งทำให้ 2 คดีดังกล่าวจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วคือช่วงปลายเดือน ก.ค. และยังคงเป็นปัจจัย Overhang ตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play อย่างต่อเนื่อง

(-) JMT คาดกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 385 ลบ. -8% q-q จากปัจจัยฤดูกาล และ -30% จากการตั้งสำรอง ECL ที่สูงขึ้น โดยการจัดเก็บหนี้ในช่วง 2Q24 จะลดลง 5% และ 12% y-y เนื่องจากลูกหนี้ใช้จ่ายเงินมากในช่วงเทศกาลหยุดยาว ทำให้โดยรวมคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 อ่อนแอ จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และแบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลให้การจัดเก็บหนี้ต่ำกว่าคาด เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-26 ลง 3-6% เพื่อสะท้อนการตั้งสำรอง ECL ที่สูงขึ้น และคาดการลงทุนซื้อ NPL ลดลง สำหรับในปี 2024 เราคาดว่าการตั้งสำรองจะลดลงใน 4Q24 ส่วนปี 2025-26 คาดกำไรสุทธิฟื้นตัวเฉลี่ย 14.5% CAGR ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 17 บาท จากเดิม 19 บาท ยังแนะนำเพียง “ถือ”

(0) ตลท.ประกาศหุ้นเข้า-ออก SET50/SET100 งวด 2H24 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า BCP BJC TIDLOR ITC หุ้นออก BANPU COM7 SAWAD KCE // ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 56.76 จุด หรือ +0.15% ปิดที่ 38,834.86 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด และเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาล ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการเมืองฝรั่งเศส และมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ และความเห็นของผู้กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ

(+) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก สอดคล้องกับทิศทางของตลาดสหรัฐฯ เมื่อวานนี้หลังได้แรงหนุนจากกลุ่ม AI

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 36.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.45%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 81.57 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและตะวันออกกลางอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก ในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 81.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.17%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 17.90 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 2,346.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด และเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,342.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.20%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 825.31/ –

 

- Advertisement -