ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดตามคาดโดยปิดลบเล็กน้อย ตลาดยังคงไร้ปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น โดยรอดูการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิ 535 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่น 3 พันลบ. (และ Short Index Futures สูงถึง 1.5 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index ยังคงแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,617-1,630 จุด โดยตลาดยังคงรอจับตาปัจจัยสำคัญคือการประชุม FED กลางสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับการประกาศเริ่มลด QE และมุมมองเงินเฟ้อรวมถึงการประชุม OPEC+ ว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมหรือไม่ ส่วนปัจจัยกดดันอ่อนๆ เช้านี้คือเศรษฐกิจจีนที่เติบโตชะลอในเดือน ต.ค. หลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตลดต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนปัจจัยในประเทศให้จับตาว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะทยอยกลับมามากน้อยเพียงใด หลังเริ่มเปิดประเทศแล้ววันนี้

กลยุทธ์ระยะสั้นเห็นเก็งกำไรเป็นรายตัว โดยเฉพาะที่มีประเด็นบวกเฉพาะ รวมถึงหุ้นที่ได้อานิสงส์จาก Theme ESG โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประชุม COP26 ส่วนระยะกลาง-ยาวยังเน้นถือลงทุนในหุ้นกลุ่ม Value เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงเงินเฟ้อและกลุ่ม Reopening Play โดยเฉพาะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับต่ำ และ Laggard SET Index เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมี COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร พลังงาน โรงกลั่น อสังหาฯ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว รับเหมาฯ

กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q21 แข็งแรงและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // ยังลงทุนในหุ้น Value และ Reopening Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CHG, FSMART, GPSC, JWD, KCE

หุ้นเด่นวันนี้: TKS

  • แนะนำ  ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17.90 บาท
  • แนวโน้ม 3Q21 จะได้แรงหนุนจากกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างถือหุ้น TBSP-SABUY ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก SYNEX ยังแข็งแกร่ง ขณะที่ 4Q21 ได้อานิสงส์จาก SYNEX ที่เข้า High Season และสินค้าใหม่ของ Apple รวมถึงคาดภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายปลายปี
  • เรามอง Valuation TKS ยังถูก ปัจจุบันยัง Discount จาก NAV ของ SYNEX เกือบ 40% และยังไม่รวมโรงพิมพ์ และมูลเพิ่มระยะยาวจากการถือหุ้น SABUY 9.68% และ Digital Transformation ในอนาคต โดยคาดเห็นดีลลงทุนต่อเนื่อง
  • แนวรับ 12 บาท แนวต้าน 12.60-12.70 // 13.20 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินยังคงไหลออกจากภูมิภาคและเร่งตัวขึ้นเป็น US$ 1,114 ล้าน US$ 653 ล้านและ US$ 324 ล้าน US$ 91 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลออก เกือบทุกประเทศนำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ ตามลำดับ ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทยไหลเข้าบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออกจาก Dollar Index ที่แข็งค่าเร็ว ขณะที่นักลงทุนรอจับตาดูผลการประชุม FED สัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ย. เราประเมินกรอบ SET Index เดือน พ.ย. ที่ 1,590 1,655 จุดสร้างฐานระยะสั้น และจับตาทั้งปัจจัยต่างประเทศด้านการลด QE ของ FED และเงินเฟ้อ รวมถึงการเริ่มเปิดประเทศและประกาศผลประกอบการ 3Q21 ของบ้านเรา หากโดยรวมออกมาไม่แย่กว่าคาดและข้อมูลจากผู้บริหารจากการประชุมนักวิเคราะห์ค่อนไปในทางบวกต่อการฟื้นตัวใน 4Q21-2022 คาดหนุนให้ SET Index ค่อยๆไต่ระดับขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีระยะสั้น เน้น Selective Buy ส่วนระยะกลาง-ยาวยังชอบ Value และ Reopening Play เดือนนี้เราแนะนํา CHG FSMART GPSC JWD KCE

(+) การประชุม COP26 เริ่มแล้ววันที่ 31 ต.ค. 12 พ.ย. นี้เป็นการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยแต่ละประเทศจ ะประกาศแผนการปล่อยมลพิษภายในปี 2030 และคาดว่าจะเน้นเกี่ยวกับการเลิกใช้ถ่านหินการเปลี่ยนไปใช้ EV เรามองเป็นปัจจัยกดดันสำหรับ BANPU แต่เป็นบวกกับโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ผู้ผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ เราชอบ EA GSPC BCPG KCE HANA SMT

(0) สัปดาห์นี้จับตาประชุม FED และ OPEC+ คาดว่าการประชุม FED ครั้งนี้จะมีการประกาศเริ่มลดขนาด QE อย่างเป็นทางการเดือนละ US$ 1.5 หมื่นล้าน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เร่งตัวได้บ้าง ส่วนการปรับขึ้นดอกเบี้ยคาดว่าเกิดขึ้นอย่างเร็วใน 2H22 หลังจากยุติ QE ส่วนการประชุม OPEC+ ต้องจับตาว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมซึ่งอยู่ที่เดือนละ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือไม่หากมีการเพิ่มขึ้นคาดเป็นบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม จากราคาน้ำมันดิบที่จะอ่อนตัวและลดความกังวลเงินเฟ้อมากขึ้น

(+) IRPC คาดกำไร 3Q21 -50% Q-Q, +47% Y-Y จาก GIM และ GRM ที่ชะลอตัวจาก 2Q21 รวมถึง Crude Premium ที่เพิ่ม อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนน 4Q21 เป็นต้นไป จาก GRM ที่พุ่งขึ้นแรงรวมถึง Margin ของปิโตรเคมีและน้ำมันหล่อลื่นที่สูงขึ้น และคาดดีต่อเนื่องในปี 2022 ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกเราปรับกำไรปี 2021 ขึ้นเป็น 1.6 หมื่นลบ. พลิกจากขาดทุนปีก่อนส่วนปี 2022 คาดชะลอ –21% Y-Y ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 5.80 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) NOBLE คาดกําไรสุทธิ 3Q21 -50% Q-Q ,-71% Y-Y จากผลกระทบ COVID-19 และไม่มีคอนโดสร้างเสร็จใหม่ กดดันให้ยอดโอนหดตัวแรง ขณะที่ 4Q21 ทยอยฟื้นตัวตาม Sentiment การขายและโอนที่ดีขึ้น รวมถึงบันทึกกำไรขาย Noble Remix แต่โดยรวมผลประกอบการจะยังไม่เด่นจนกว่าจะมีคอนโดสร้างเสร็จใหม่ใน 2H22  เนื่องจากสต็อกพร้อมโอนอยู่ระดับไม่สูง เราปรับลดประมาณการปกติปี 2021-2022 ลงเป็น -41% Y-Y และ +18% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 7 บาท แนะนำ “ถือ” รับปันผล Yield 8%

(+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 89.08 จุดหรือ 0.25% ปิดที่ 35,819.56 จุดจากการปรับขึ้นของหุ้น Microsoft  ชดเชยการปรับลงของหุ้น Amazon และหุ้น Apple หลังเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรป รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่บริษัทจดทะเบียน

(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ ขณะที่ติดตามจีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค. จากไฉซินในเช้านี้

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 76 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนจากตลาดคาดว่าโอเปกพลัสจะคงมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ธ.ค. ต่อไป

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 18.7 ดอลลาร์หรือ 1.04% ปิดที่ 1,783.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 982.14 / +-

- Advertisement -