บล.พาย:
TTB TMBThanachart PCL
การเติบโตสูงหนุนจากผลประโยชน์ภาษี
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 1.98 บาท เราชอบ TTB ที่เป็นทั้งหุ้นเติบโต และจ่ายเงินปันผลสูงในกลุ่มธนาคาร (1) เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเต็บโต้ 14% YoY โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร ส่วนหนึ่งจากผลประโยชน์ภาษีที่คงเหลือราว 14.1 พันล้านบาท สิ้น มี.ค. 2024 (2) งบ ดุลแข็งแกร่งจากกลยุทธ์การตั้งรับทำให้สำรองหนี้ฯ ปรับลดลง ช่วยลดทอนผลกระทบจากต้นทุนการเงินที่จะเร่งตัวขึ้นในปี 2024 และ (3) ราคาหุ้นปรับลดลงราว 2% YTD ทำให้มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงขึ้นเป็น 7.3% ในปี 2024 สำหรับใน 2024 เราคาดกำไรสุทธิที่ 5.1 พันล้านบาท (+12.2% YoY, -3.9% QoQ) คุณภาพสินเชื่อทรงตัว โดยมี NPL ratio ที่ 2.6% และ Coverage ratio สูงที่ 156.5%
คาดกำไรสุทธิใน 2Q24 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ
- เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 5.1 พันล้าน (+12.2% YoY, -3.9%QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจากผลประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก แม้ว่ารายได้จากการดำเนินงานจะลดลงก็ตาม เราสมมติฐานผลประโยชน์ภาษีที่ 5% ของกำไรก่อนภาษี (1Q24: 7.1%) เทียบกับที่มีอัตราภาษีจ่าย 19.2% ใน 2Q23 เทียบกับใน 1Q24 เราคาดกำไรสุทธิจะลดลง QoQ เนื่องจากแม้ว่าสำรองหนี้ฯ ปรับลดลง แต่เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากสินเชื่อลดลง และ NIM ปรับลดลงที่ 3.2% (-10 bps QoQ, -2 bps YoY)
- เราคาดว่าสินเชื่อจะปรับลดลงต่อเนื่อง 1% QoQ (-4.5% YoY) กดดันจากสินเชื่อ SME และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก แม้ว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อบ้านแลกเงินจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยเราคงประมาณการสินเชื่อปี 2024 ปรับลดลง 2.2% YoY
- การควบคุมคุณภาพสินเชื่อเป็นกลยุทธ์หลักของธนาคาร เราคาดว่า NPL ratio ทรงตัว QoQ ที่ 2.6% และ Coverage ratio ที่ 156.5%
คาดกำไรปี 2024 เติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
- ผ่านไป 2 ไตรมาส กลยุทธ์หลักเน้นขยายลูกค้าที่มีคุณภาพ และสร้างการเติบโตจากการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาระบบดิจิตอลเพื่อลดต้นทุนการให้บริการ นอกจากนี้ TTB มีผลประโยชน์ทางภาษีคงเหลือ 14.1 พันล้านบาท สิน มี.ค. ทำให้คาดว่า TTB จะไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีไปจนถึงปี 2026 และเริ่มกลับมาจ่ายภาษีบางส่วนใน ปี 2027
- แม้ในปี 2024 รายได้จากการดำเนินงานจะไม่เติบโต เนื่องจากสินเชื่อไม่ขยายตัว แต่เพราะผลประโยชน์ทางภาษี และสำรองหนี้ฯ ลดลงจะเป็นปัจจัยหลักหนุนให้กำไรสุทธิเติบโตที่ 14% ในปี 2024 และ ROE จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องที่ 9% ในปี 2024
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 1.98 บาท
ท่ามกลางความไม่แน่นอนการเมือง เรามองว่า TTB จะยังสามารถสร้างการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการควบคุมคุณภาพสินเชื่อตามเป้าหมาย ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลดลง ทำให้มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้นเป็น 7.3% ในปี 2024 และราคาหุ้นยังไม่แพงซื้อขายที่ราว 0.65x PBV’24E มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 9%, TG 2%) อิงจาก 0.8x PBV’24E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี