วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,310 / 1,303 แนวต้าน 1,320 / 1,330

คาดการณ์ PCE ของสหรัฐเดือน พ.ค. จะออกมา +2.6%YoY ชะลอตัวลงจากเดือน เม.ย. กระตุ้นความคาดหวัง FED ปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 40’67 เพิ่มเติม อย่างไรก็ตามยังต้อง ติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ FED เพื่อหาสัญญาณถึงแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับเงื่อนไข ThaiESG ขยายวงเงินขอลดหย่อนภาษีเงินได้มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

Our View? “ไหวไหมบอกมา?”

คาดตลาดวันนี้ ‘Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,310 / 1,303 และแนวต้านที่บริเวณ 1,320 / 1,330 คาดตลาดจะได้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ค. จะออกมา +2.6%YoY ขณะที่คาดว่า Core PCE จะออกมา +2.6%YoY ชะลอตัวลงจากเดือน เม.ย. กระตุ้นความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 4Q’67 มากกว่าที่ตลาดคาด สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) เริ่มชะลอตัวลง คาดจะหนุนความน่าสนใจของทิศทางสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม เรายังมองในสัปดาห์นี้ตลาดจะให้ความสำคัญไปกับการติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ FED เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อหาสัญญาณถึงแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในระยะถัดไปต่อ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools ยังคงสะท้อน FED มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือน ก.ย.ที่ระดับ 60.0%+/- ไม่เปลี่ยนแปลงจากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้การที่ตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้พยายามปรับตัวขึ้นอีกครั้งปิดที่ระดับ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.90 ดอลลาร์ (+1.11%) คาดได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปสงค์ในช่วงหน้าร้อนของสหรัฐหนุนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและยูเครนยังยืดเยื้อกระทบอุปทานน้ำมัน คาดจะหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐบาลปรับเงื่อนไข ThaiESG ขยายวงเงินขอลดหย่อนภาษีเงินได้เป็นสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท จากเดิม 1 แสนบาท และปรับลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ จากเดิม 8 ปี พร้อมทั้งส่งสัญญาณจะศึกษาการนำกองทุนวายุภักษ์คาดจะสามารถสร้างเม็ดเงินที่เข้ามาสู่ตลาดได้มากขึ้นมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

ขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขส่งออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาออกมา +7.2%YoY มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำมูลค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน จากการส่งออกสินค้าในหมวดเกษตร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่องยังทำได้ดี ส่งผลให้เดือน พ.ค. ไทยเกินดุลการค้า 656.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, KCE, HANA และ SMT)

อีกทั้งยังต้องติดตามแนวโน้มในการออกมาตรการกำกับดูแลการ Short Sell ของ ตลท. หลังมีประเด็นการเรียกร้องให้ ตลท. ระงับการ Short Sell ชั่วคราว เรามองจะหนุนแรงซื้อกลับจากการ Cover Short หนุนทิศทางตลาดหุ้นไทยเกิด Technical Rebound – จำกัด Downside ได้บ้างในระยะสั้น

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “OSP”

  • นักวิเคราะห์ของเราคาดว่าผลประกอบการ 2Q’67 คาดยังสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจาก 1Q’67 ที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยคาดแนวโน้มยอดขายยังเร่งตัวขึ้น และตลาดเมียนมาร์ยังโตต่อเนื่องอีก ทั้งมาร์จิ้นยังได้อานิสงส์ต้นทุนพลังงาน และค่าไฟที่ลดลง YoY
  • ทางเทคนิค ราคาอยู่ในกรอบทิศทางแนวโน้มขาขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
  • แนวรับ 23.00 / 22.60 Target 24.70 /27.00 Stop <21.60

- Advertisement -