Commodities linked and Anti-oil sectors: ติดตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวต่อ หลังจีนรายงานตัวเลข NBS PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ที่ 49.2 จุด (-0.8% MoM) ซึ่งต่ำกว่า 50 จุดเป็นเดือนที่สองติดต่อกันสะท้อนสถานการณ์ภาคการผลิตของจีนที่อ่อนแอจากผลกระทบการขาดแคลนไฟฟ้า และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น มองราคาโภคภัณฑ์ที่ชะลอตัวจะส่งผลลบต่อหุ้นโภคภัณฑ์ ได้แก่ เดินเรือ ถ่านหิน ยางพารา และน้ำมัน เป็นต้น แต่จะเป็นบวกกับกลุ่ม Anti oil เช่น ภาคอุตสาหกรรม, กลุ่มขนส่ง, กลุ่มรับเหมา และค้าปลีก เป็นต้น

Reopening plays: ติดตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยหลังเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. โดยกระทรวงการต่างประเทศ ออกประกาศเพิ่มจาก 46 เป็น 63 ประเทศเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว

Contractor sector: ติดตามการเปิดประมูลงานในปีงบประมาณ 2565 หลัง รมว. คมนาคมเตรียมอัดเมกะโปรเจกต์ 40 โครงการ มูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท พร้อมอัดเม็ดเงินลงระบบเศรษฐกิจ แบ่งเป็น โครงการที่ได้ลงนามสัญญาแล้ว ดำเนินการขับเคลื่อนต่อในปี 2565 ในวงเงิน 5.16 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ของกระทรวงคมนาคมปี 2565 วงเงิน 9.74 แสนล้านบาท

Auto and EV related sectors: ติดตามมาตรการกระตุ้นการบริโภค และลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งรัฐบาลจะประกาศในช่วงปลายปี ก่อนบังคับใช้ในปี 2022 ในส่วนภาษีสรรพสามิต, การซัพพอร์ตเป็นเงินก้อนให้กับคนซื้ออีวีโดยตรง หรือให้นำไปลดหย่อนภาษี, มาตรการที่สนับสนุนการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศในช่วงแรกผลผลิตที่ยังไม่ออกมาก, และการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อตั้งโรงงานในประเทศ นอกจากนี้ราคาหุ้น EV car ในต่างประเทศที่ทยอยทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จะหนุนแรงเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องในตลาดหุ้นไทย ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (DELTA, EA, GPSC, BANPU, BPP และ BCPG), ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (PTT, OR, BCP, CPALL, FORTH, EA และ DELTA), ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ (EPG, TKT, FPI, PACO, AH, HFT, PCSGH และ TRU), ผู้ผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, HANA, DELTA) และผู้ประกอบรถโดยสาร EV Car (NEX, CHO, CWT และ EA)

Bond Yield related sectors: ติดตามทิศทาง US 10Y Bond Yield ของสหรัฐฯ หลังการประชุมเฟดคืนวันพุธที่ 3 พ.ย. โดยตลาดคาดเฟดจะเปิดเผยแผนการลด QE รวมถึงต้องจับตามุมมองของเฟดเรื่องเงินเฟ้อเพราะจะมีผลต่อทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า หากเฟดกังวลเงินเฟ้อ US 10Y Bond Yield จะพุ่งขึ้นจะหนุนการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มประกัน และธนาคาร แต่หากเฟดไม่กังวลเงินเฟ้อ โดยมองว่ายังเป็นการปรับตัวสูงขึ้นชั่วคราวคาดว่า US 10Y Bond Yield จะปรับฐานหนุนการเก็งกำไรกลุ่ม Finance และโรงไฟฟ้า

มุมมองตลาดหุ้น วันนี้คาด SET 1630 หุ้นแนะนำ KCE, BEM

Top picks. KCE (ราคาพื้นฐาน 104.00 บาท). คาดงบ 3Q21 จะออกเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ และคาดว่าจะดีต่อเนื่องใน 4Q21 โดยบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนชิป ทั้งนี้เรามีการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากการปรับประมาณการณ์กำไรเพิ่ม. BEM (ราคาพื้นฐาน 10.11  บาท). คาดว่ากำไร 3Q21 แย่แต่จะฟื้นตัวใน 4Q21 โดย BEM ถือเป็นหุ้นกลุ่ม reopening ที่คาดว่าจะได้ sentiment บวกจากจากสถาณการณ์โควิดในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความหวังจากการชนะประมูล รฟฟ.สายสีส้ม

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม ตัวเลข Caixin PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน ต.ค. คาด 50 จุด ทรงตัว MoM ตัวเลขการส่งออก และนำเข้าของเกาหลีใต้เดือน ต.ค. คาด +27% YoY และ +40% YoY ตามลำดับ ตัวเลข ISM PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด 60.5 จุด (-1% MoM)

วันอังคาร ติดตาม ตัวเลข Markit PMI ภาคการผลิตของเยอรมันเดือน ต.ค. คาด 58.2 จุด ทรงตัว MoM

วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Caixin PMI ภาคบริการของจีนเดือน ต.ค. คาด 53 จุด (-0.7% MoM) ตัวเลข Unemployment rate ของยูโรโซน เดือน ก.ย. คาด 7.4% (ลดลง 10bps.) ตัวเลข ISM Non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด 62.1 จุด (+0.3% MoM) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน ต.ค.

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ต.ค. ตัวเลข Markit Services PMI ของยูโรโซนเดือน ต.ค. คาด 52.4 จุด (-3.0% MoM) ตัวเลข PPI ยูโรโซน เดือน ก.ย. คาด +1.9% MoM และ +15.2% YoY การประชุมธนาคารกลางของอังกฤษและการประชุมกลุ่ม OPEC+ คาดคงแผนเพิ่มกำลังการผลิตที่ 400KBD ต่อเดือนตามเดิม

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข CPI และ Core CPI ของไทยเดือน ต.ค. ตัวเลข Retail sales ยูโรโซนเดือน ก.ย. คาด +0.2% MoM และ +1.5% YoY ตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด 4.13 แสนตำแหน่ง ตัวเลข Unemployment rate ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด 4.7% และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM

- Advertisement -