พักตัวระยะสั้นรอดูปัจจัยใหม่ๆ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.76% ถูกกดดันจากการปรับลงของหุ้นบริษัทค้าปลีก อย่างไรก็ตามดัชนี Nasdag ปิดบวกได้ 1.26% รับแรงซื้อในหุ้น NVIDIA หลังปรับฐานก่อนหน้านี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.2% จากการชะลอตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB พบว่าใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 101.3 โดยความเชื่อมั่นได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม กับสภาพธุรกิจอ่อนตัวลงพร้อมกับความคาดหวังในอนาคตเกี่ยวกับรายได้และสภาพธุรกิจ อ่อนตัวลง พร้อมกับมองโอกาสถดถอยทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ น้อยลง แต่มองฐานะการเงินปัจจุบันและอีก 6 เดือนข้างหน้า ในมุมมองบวกที่น้อยลง ขณะที่แผนการซื้ออสังหาริมทรัพย์พบว่าไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และยังคงระดับต่ำเป็นประวัติการณ์รวมถึงแผนการซื้อรถยนต์ก็หยุดชะงักเช่นกัน แต่ยังคงให้น้ำหนักกับการท่องเที่ยวแต่เน้นการท่องเที่ยวในสหรัฐฯมากกว่าจะออกไปนอกประเทศ โดยรวมมองปัจจัยข้างต้นเป็นกลางกับการลงทุนผู้บริโภคคลายกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ยังประเมินสภาพธุรกิจไม่ดีมากนัก หลังจากทราบผลดังกล่าวพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2,10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ อย่างไรก็ตาม Dollar Index ยังคงแนวโน้มแข็งค่า ส่วนนึงอาจเป็นเพราะการอ่อนค่าของยูโรและเงินเยน ด้านความเห็นจาก CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนัก FED ปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเช่นเดิมด้วยโอกาส 59% ปัจจัยในประเทศวานนี้กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยว 23 วันแรกของเดือน มิ.ย. พบว่าอยู่ที่ 2.08 ล้านรายหรือเฉลี่ยวันละ 9 หมื่นราย หากเทียบกับ มิ.ย. ปีก่อนพบว่ามีคนเดินทางเข้ามาไทยเฉลี่ยวันละเพียง 7.4 หมื่นราย ตามสถิติแล้วตัวเลขเดือน ก.ค.มักจะสูงขึ้นกว่า มิ.ย. และจะไปเจอจุดต่ำสุดในช่วงเดือน ก.ย. ก่อนจะเร่งตัวขึ้น ตั้งแต่ ต.ค. – ก.พ. จึงมองกลุ่มท่องเที่ยวน่าสนใจต่อเนื่อง และราคาที่ปรับฐานเป็นโอกาสในการสะสม ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ ยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.36 แสนหลังคาเรือน หากแย่กว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหว 1310 – 1325 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำสะสมเช่นเดิม เพราะมองถึงการฟื้นตัวช่วงถัดไปหนุนจากเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุด ประกอบกับแรงซื้อจากสถาบันจากการมาของกองทุน TESG รวมไปถึงการใช้ Uptick ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. แนะสะสมกลุ่มค้าปลีก (CPALL CRC DOHOME HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANKKTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) เครื่องดื่ม (ICHI TACC)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท)
โดยปกติใน 2Q24 และ 3Q24 จะเป็นช่วง low season ของธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศไทย และ มัลดิฟส์ (รวมคิดเป็น 90% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม) ดังนั้น เรามองว่ากำไรจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูการ แต่จะสูงกว่าใน 2Q23 จากที่มีรายได้ของโรงแรมที่ญี่ปุ่นเพิ่มเข้ามา (คิดเป็น 10% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม) แต่มองเป็นโอกาสสะสมจากการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 152.00 บาท)
คาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 12.2 พันล้าน (+11.2% YoY, -9.3% QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับสินเชื่อ และสำรองหนี้ฯ ปรับลดลงหลังจากที่กระบวนการบริหารงบดุลจะแล้วเสร็จในปี 2024 อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เนื่องจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงหลังจากมองว่า NIM จะปรับลดลงต่อเนื่อง (2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง และ (3) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น