ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรไม่เพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์เพียงเพื่อมัดใจลูกค้าเท่านั้น แต่ยังต้องรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ให้ได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่องค์กรมีพนักงานจากหลายเจเนอเรชัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y และ Gen Z ที่มีแนวคิดที่เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อน พนักงานยุคใหม่ให้ความสำคัญกับงานท้าทายที่ช่วยพัฒนาศักยภาพ สร้างผลกระทบเชิงบวก และมีความยืดหยุ่น องค์กรจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ เพื่อรักษาพนักงานที่มีคุณค่าและส่งเสริมการพัฒนาองค์กรในระยะยาว
จากข้อมูลผลสำรวจ Exit Interview กับพนักงานในองค์กร BUZZEBEES กว่า 500 คน พบว่ากว่า 50% ของพนักงานให้เหตุผลในการย้ายงานว่าต้องการโอกาสและความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งในด้านเวลาและสถานที่ทำงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกทำงานในยุคปัจจุบัน ดังนั้น องค์กรต้องปรับตัวเพื่อรักษาพนักงานและองค์ความรู้ไว้ โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ท้าทายและส่งเสริมการพัฒนาตนเอง เพิ่มความอิสระและยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากที่บ้านหรือเลือกเวลาทำงาน และสร้างวัฒนธรรมที่ทำให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและทำงานที่มีคุณค่า
ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES) กล่าวว่า “ในฐานะที่ BUZZEBEES ได้คลุกคลีในแวดวง CRM & Loyalty Engagement Solution มานานกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้เรามุ่งเน้นตลาดในกลุ่ม B2B และ B2C และประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค (B2C) และระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน (B2B) BUZZEBEES จึงได้นำเคล็ดลับความสำเร็จนี้มาขยายไปยังตลาด B2E (Business to Employee) จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ภายใต้ชื่อ ‘BEES’ Benefit’ โดยมุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร”
BEES’ Benefit เป็นแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดจาก BUZZEBEES ที่มุ่งเน้นการให้ของรางวัลที่ถูกใจพนักงานและสร้างความผูกพันในองค์กร ผ่านการสะสมแต้มและแลกรับของรางวัล ภายใต้สโลแกน ‘หลากหลาย ถูกใจ พร้อมใช้ ไม่เพิ่มงาน’ ระบบนี้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน ช่วยสร้างความพึงพอใจและแรงจูงใจในการทำงาน อีกทั้งยังลดภาระของ HR ในการจัดหาของรางวัล โดย HR สามารถแจกคะแนนให้พนักงานแลกของรางวัลจาก BUZZEBEES Ecosystem ซึ่งมีมากกว่า 1,000 รายการ จากกว่า 300 ร้านค้า เช่น Starbucks, Swensens, Zen, Bar-B-Q Plaza, Bonchon, Oishi, Sukishi, KOI thé, Subway, Tops, Lotus’s, บางจาก, PT, Grab, Lineman, Foodpanda เป็นต้น
ทั้งนี้ HR สามารถกำหนดวิธีการให้คะแนนแก่พนักงานในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานขององค์กร ตัวอย่างเช่น การเข้าร่วม Training หรือ Workshop การทำงานจิตอาสา การเป็นพนักงานดีเด่นหรือมียอดขายสูงสุดประจำเดือน และการชนะการประกวดผลงานต่าง ๆ เป็นต้น ระบบการให้คะแนนนี้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงการทำงานของพนักงานกับเป้าหมายและทิศทางขององค์กรได้อย่างลงตัว
จากผลสำรวจการใช้งานแอปพลิเคชัน BEES’ Benefit หลังจากนำมาใช้ในองค์กรเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าทั้ง HR และพนักงานมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นถึง 41% นอกจากนี้ แอปพลิเคชันยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานได้ถึง 55% และที่สำคัญที่สุดคือสามารถลดอัตราการลาออกของพนักงานได้ถึง 21% ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมของ BEES’ Benefit ยังได้รับการยืนยันจากการได้รับรางวัล Human Resource Excellence Awards 2023 ในสองประเภท ได้แก่ Excellence in The Use of HR Tech และ Excellence in Employee Engagement ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงประสิทธิภาพและความสำเร็จของแอปพลิเคชันนี้ในการเสริมสร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร
ณัฐธิดา กล่าวปิดท้ายว่า “นอกจากเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ชัดเจน ผลตอบแทนหรือสวัสดิการที่เหมาะสมเป็นแรงจูงใจสำคัญ BEES’ Benefit เป็นมิติใหม่ของการทำงานที่ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร มอบประสบการณ์ที่ดี เพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน สร้างบรรยากาศที่ดี และช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีค่าให้อยู่และทำงานกับองค์กรได้เต็มที่มากขึ้น และเชื่อมั่นว่าแอปพลิเคชัน BEES’ Benefit จะสามารถตอบโจทย์การสร้างความรู้สึกว่าพนักงานมีคุณค่า และมีตัวตนในองค์กร ซึ่งจะช่วยลดอัตราการลาออก (turnover) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและในระดับที่น่าพึงพอใจ”
ที่มา: BrandAge Online