ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ฟื้นตัวได้บ้าง แต่ยังผันผวนก่อนผลประชุมเฟด ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันอังคารรีบาวด์ได้บ้างก่อนผันผวนต่อ … หลังจากเมื่อวานนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ SET Index อ่อนแอกว่าที่เราคาดพอควร นักลงทุนต่างชาติยังมียอดขายสุทธิค่อนข้างหนักก่อนผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) … ขณะที่ปัจจัยตลาดหุ้นในวันนี้นั้นหลักๆ ยังอยู่ที่ความกังวลของนักลงทุนว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม ล่าสุดราคาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ว่ามีโอกาส 55% ที่เฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. 2565 ขณะที่ Goldman Sachs ปรับการคาดการณ์เป็นว่าเฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. 2565 เช่นกัน อย่างไรก็ดีความชัดเจนน่าจะมีมากขึ้นหลังจากเฟดแถลงผลประชุมในคืนวันพุธนี้ ซึ่งรายละเอียดของการลดมาตรการ QE ที่จะออกมานั้นจะช่วยให้คาดการณ์ได้แม่นยำขึ้นว่าเฟดจะเริ่มขยับดอกเบี้ยเมื่อใด ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในเกณฑ์ดี ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ออกมาที่ 60.8 สูงกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 60.5 จุด … ด้านปัจจัยภายในประเทศเมื่อวานนี้ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักกับการเปิดประเทศวันแรก (เป็นไปตามที่คาดว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในราคาหุ้นไปแล้ว) ขณะที่หุ้นขนาดเล็กได้รับจิตวิทยาเชิงลบบ้างหลังจากตลท. เปิดทำเฮียริ่ง แนวทางการปรับมาตรการกำกับการซื้อขายให้เข้มกว่าเดิม เช่น อาจมีการห้ามซื้อขาย 1 วันในมาตรการระดับ 3 เป็นต้น … ขณะที่เช้าวันนี้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 7,574 ราย เสียชีวิต 78 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 8,279 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร VGI*, GPSC  

  • VGI* (เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท) 1) ประเมินแล้วรับ 6.55 บาท / แนวต้าน 6.8-7.1 บาท (Stop loss 6.4 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 2Q64/65 (ก.ค. -ก.ย. ) จะเป็นจุดต่ำสุด โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดจะขาดทุนราว -59 ล้านบาท แต่จะเริ่มฟื้นตัวในช่วง ต.ค. 64- มี.ค. 65 ภายหลังการเปิดประเทศ เป็นบวกต่อ Demand สื่อโฆษณานอกบ้าน ส่งผลให้คาดผลการดำเนินงานปี 2564/65 (ปิดงบ มี.ค. ) มีกำไรได้ราว +300 ล้านบาท 3) ประเมินผลการดำเนินงานปี 2565/66 (ปิดงบ มี.ค. ) จะเติบโตเด่น +122% YoY จาก i) สื่อโฆษณานอกบ้านพื้น ii) Upside จากธุรกิจใหม่ๆ อาทิ Synergy benefit จากการเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม JMART … อ่านรายละเอียดเพิ่มในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยวันนี้ฝ่ายวิจัยฯ ออกบทวิเคราะห์ ปรับคำแนะนำและราคาเหมาะสมขึ้น
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 95 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 77.5 บาท / แนวต้าน 80-82 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 88 บาท (Stop loss 76 บาท) 2) ประเมินธุรกิจแบตเตอรี่และ Energy storage ของ GPSC รับ Sentiment บวกจากนโยบายการสนับสนุนทางภาษีของภาครัฐฯ ทั้งมาตรการทางภาษีและมาตรการจูงใจผู้ซื้อรถอีวี คาดจะมีการเสนอโครงสร้างภาษีรถวันที่ 8 พ. ย. นี้ 3) ประเมิน Earnings momentum ยังดีต่อเนื่องหลังการเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนที่อินเดีย (เริ่มรับรู้รายได้ใน 2H64) และไต้หวัน (คาดเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2565) 3) Forward PE +/- 22 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) AS เกมเสมือนจริงหนุนเล็งบุกโทเคนซัดสิ้นปี (ทันหุ้น) AS เล็งพัฒนาเกมรูปแบบ Virtual Reality (VR) พร้อมศึกษาต่อยอดเกม Play to Earn รวมถึง NFT ตามเทรนด์ของโลก ส่วน Q4/2564 เปิดตัวอย่างน้อย 3 เกม เน้นตลาดเกมโมบายมองยังมีโอกาสเติบโตสูง มั่นใจทั้งปีรายได้เติบโต 15-20% เผยปี 2565 ตลาดเกมยังโตได้กว่า 15% ฟากโบรกประเมินไตรมาส 3/2564 จ่อรับรู้รายได้เกม Cabal Mobile ที่ประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามเต็มไตรมาส

(+) PLANB* กางแผนปี 65 วางงบลงทุน 50 ล้านรุกตลาดอีสปอร์ต (ข่าวหุ้น) “แพลนบี” กางแผนปี 65 ทุ่มงบลงทุน 50 ล้านบาททำตลาดอีปอร์ต มุ่งดึง “แบรนด์สินค้า” เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่อยอดแข่งขัน “e-Football THAI LEAGUE 2022” ผนึกพันธมิตรเฟ้นหา “ผู้จัดการทีมอีสปอร์ต” 16 สโมสรไทยลีก

(+) GLOBAL* กำไร Q3 โต 663 ล. ตั้งบริษัทย่อยลุยธุรกิจเทค (ทันหุ้น) “GLOBAL*” เผยงบไตรมาส 3/2564 บุ๊กกำไร 663.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากงวดเดียวกันปีก่อน ชูกลยุทธ์บริหารสินค้ากลุ่ม House Brand และการกระตุ้นยอดขายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ หนุนเดินหน้าแตกบริษัทย่อยลุยธุรกิจเทคและขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์

(+) BGRIM* ผนึกเครือสหพัฒน์ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาฯ (ทันหุ้น) BGRIM*ผนึก SPI ในเครือสหพัฒน์ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมชูแนวคิด “วิศวกรรมคุณค่า” มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เตรียมนำร่องโครงการ “คิงบริดจ์ทาวเวอร์”

(+) EP รุกเวียดนามเตรียมงบ 6 พันล. ดีลร่วมทุนไฟฟ้า (ทันหุ้น) บิ๊ก EP “ยุทธ ชินสุภัคกุล” เผยเตรียมนำเงินจากการขายโรงไฟฟ้าไปพัฒนาโครงการ LNG to Power ที่เวียดนาม 1.5 พันเมกะวัตต์ คาดถือหุ้น 50% ใช้เงินลงทุน 6 พันล้านบาท เปิดทางพันธมิตรร่วมทุนต่อยอดเติบโต IRR จากการลงทุนประมาณ 12% ส่วนปี 2565 คาดผลงานโตต่อส่วนปี 2564 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 25%

(+) UPA ทุ่มกว่า 236 ล้านบาท ซื้อวินด์ฟาร์ม-ลุยสินทรัพย์ดิจิทัลที่ลาว (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บอร์ด “ยูไนเต็ดเพาเวอร์ออฟเอเชีย” ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย พาราโบลิก โซลาร์ พาวเวอร์ ซื้อหุ้นจาก ASIA INVESTMENT, DEVELOPMENT & CONSTRUCTION SOLE CO., LTD. สัดส่วน 80% มูลค่ารวม 236.05 ล้านบาท พร้อมได้สิทธิ์ถือหุ้น 44% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ผู้บริหารเผยการลงทุนครั้งนี้เพื่อรุกขยายธุรกิจพลังงานทดแทนทุกรูปแบบ พร้อมเซ็นเอ็มโอยูร่วมทุนในธุรกิจสินทรัพย์จิทัลทีสปป. ลาว

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • PSH* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run “(Stop loss 13.1 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนวรับ 3.36 บาท / แนวต้าน 3.46 – 3.60 บาท (Trailing stop 3.30 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 62.5 บาท) แนวรับ 54 บาท / แนวต้าน 56.5-58 บาท (Stop loss 53 บาท)
  • BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) แนวรับ 9.5 บาท / แนวต้าน 9.8-10 บาท (Stop loss 9.35 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 15.4 บาท) แนวรับ 11.4 บาท / แนวต้าน 11.8-12.0 บาท (Stop loss 11.2 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) แนวรับ 11.3 บาท / แนวต้าน 11.7 – 12.0 บาท (Stop loss 11 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) แนวรับ 64 บาท / แนวต้าน 65-67 บาท (Stop loss 63 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 15.0 -15.6 บาท (Stop loss 14.1 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • IVL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 57 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q64 = 5.8 พันล้านบาท (+1,423% YoY, -31% QoQ) กำไรที่คาดจะเติบโตในไตรมาสนี้เป็นผลจาก Spread ปิโตรเคมีของ IVL ที่ดีขึ้นมากเทียบ YoY ที่ฐาน (ปีก่อนได้รับผลกระทบจากโควิด-19) ขณะที่กำไรที่คาดจะอ่อนตัวลง QoQ เป็นผลจาก Spread ปิโตรเคมีของ IVL ที่ชะลอตัวลง QoQ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ประเมิน Spread PET ในจีน ขณะที่เริ่มปรับขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการขาดแคลนพลังงานที่จีนเป็น Catalyst บวก
  • VGI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงานราว -59 ล้านบาทใน 2Q64/65 (ก.ค. -ก.ย. ) อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ปี 2564/65 (ปิดงบ มี.ค.) และ 2565/66 (ปิดงบ มี.ค. ) ขึ้น +10% และ +19% ตามลำดับ สะท้อนการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้านและธุรกิจใหม่กับพันธมิตร (Fanslink และ Rabbit cash) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.4 บาท (เดิม 6.3 บาท)
  • ADVANC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 222 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 6.4 พันล้านบาท (-10% QoQ, -2% YoY) เป็นไปตามคาด และประเมินผลการดำเนินงานจะดีขึ้นใน 4Q64 เพราะปลดมาตรการล็อคดาวน์ / เป็น High season / และเปิดตัว iPhone13
- Advertisement -