เริ่มเห็นพลังบวก / 1,290-1,305
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET มองรีบาวด์ : หลังเริ่มมีประเด็นบวกเข้ามา คือ 1) เริ่มเห็นสัญญาณบวกในการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติหลังวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในหุ้นไทยอีกครั้งกว่า 1,31883 ลบ. พร้อมทั้งซื้อสุทธิใน SET50 Future กว่า 4.576 หมื่นสัญญา โดยวานนี้ ทั้งในตลาดหุ้น และตลาดฟิวเจอร์นักลงทุนต่างชาติเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีการซื้อขายสุทธิเป็นบวก มองจะช่วยหนุนราคาหุ้นขนาดใหญ่ที่มักเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ 2) ความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต หลังวานนี้ ครม.สัญจรได้เห็นชอบร่างงบประมาณ 1.22 แสนล้านบาท ที่ใช้สำหรับโครงการ พร้อมเผยจะนำเข้าครม.ในวันที่ 9 ก.ค. เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนจะนำเข้าสภาในลำดับถัดไป นอกจากนี้ยังประกาศจะแจ้งวันลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสำหรับประชาชนและร้านค้า ภายในเดือน ก.ค.นี้ และคาดจะให้เริ่มลงทะเบียนได้ภายใน 2 เดือน เข้ามาหนุนกลุ่มค้าปลีก 3) ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐออกมาในทิศทางชะลอตัว นำโดยตัวเลข ADP Nonfarm Employment Change เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.5 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่คาดจะเพิ่ม 1.63 แสนตำแหน่ง และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่ออกมาที่ 2.38 แสนตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.34 แสนตำแหน่ง ภาพดังกล่าวสร้างความคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง เนื่องจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงจะช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ 4) ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐจาก EIA ประจำสัปดาห์ออกมาติดลบกว่า 12.15 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งก่อนถึงช่วงวันหยุด Independence Day หนุนราคาหุ้นพลังงานและโรงกลั่น ขณะที่ประเด็นลบที่กดดันภาพรวมมาจากความกังวลในภาพการเมืองที่ยัง Overhang หลังศาล รธน.นัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค. ส่วนภายนอกเช้านี้จับตาการเลือกตั้งอังกฤษหลังฝ่ายพรรคแรงงานมีแนวโน้มจะกุมชัยชนะในครั้งนี้เหนือฝ่ายอนุรักษ์นิยมเดิม
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบกลุ่มธนาคาร: KTB, KBANK, TTB, TISCO 2) พลังงาน: BCP, PTTEP, SPRC, TOP 3) Dividend Play: NER, OSP, SIRI, STA, SCB 4) ค้าปลีก: BJC, MOSHI, HMPRO, CPALL และ 5) Selective: ADVANC, BEM, BH, INTUCH
ปัจจัยบวก
- ททท.เตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี รวมทั้งช่วยส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวให้เมืองไทยคึกคักไม่หลับใหล พร้อมก้าวสู่ Tourism Hub ระดับโลก โดยในเดือนก.ค.-ส.ค.67 เตรียมเสิร์ฟ “สุขทันที่ที่เที่ยวไทย”
- รมช.คลัง มั่นใจศก.ไทยปี 2567 จะขยายตัวได้ 3% โดยรัฐบาลได้เตรียมม.กระตุ้นศก.เพิ่มเติม โดยเฉพาะด้านภาษี และในสัปดาห์หน้าก.คลังจะเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบมาตรการซอฟท์โลน วงเงิน 1 แสนลบ. ของธนาคารออมสิน รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้มั่นใจว่าศก.จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย
- กกร.ปรับเป้าการส่งออกปีนี้เป็น 0.8-1.5% จากเดิมที่ 0.5-1.5% โดยอาจมีปัจจัยบวกชั่วคราว จากการเร่งสั่งซื้อสินค้าและการปรับเปลี่ยนมาส่งออกจากไทย ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
ปัจจัยลบ
- ประธาน กกต. เผยยังไม่ประกกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ว. เนื่องจากจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ แล้วจึงจะมีการประกาศรับรองในภายหลัง
- World Bank ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 67 เหลือโต 2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนเม.ย.ที่ 2.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออก และการลงทุนภาครัฐในช่วงต้นปีที่น้อยกว่าคาดการณ์ (ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมผลของโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท)
- หน่วยยามฝั่งของไต้หวันเผยเจ้าหน้าที่จีนขึ้นเรือและยึดเรือประมงไต้หวัน ที่ปฏิบัติการใกล้ชายฝั่งของจีนใกล้กับเกาะที่ไต้หวันควบคุมและนำไปยังท่าเรือของจีน ซึ่งเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้รุนแรงขึ้น
- EU กำลังจัดทำแผนการกำหนดภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าราคาถูกที่ซื้อจากผู้ค้าปลีกออนไลน์ของจีน รวมถึง Temu, Shein และ AliExpress โดยปลายเดือนนี้ EC จะแนะนำให้ยกเลิกเกณฑ์ปัจจุบันที่ 150 ยูโร ที่สามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้
PICKS OF THE DAY
KBANK BUY
- เป้าหมาย 130.00 / 135.00 แนวรับ 120.00 / 123.00
- คาดกำไร 2Q67 เด่นสุดในกลุ่ม: ทางฝ่ายคาด KBANK จะมีกำไร 2Q67 14 พันลบ. เพิ่มขึ้น 28.6% y-y และ 4.9% q-q จากการตั้งสำรองที่ลดลง และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น
- ได้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือ SME: KBANK เป็นเจ้าตลาดสินเชื่อ SME โดยมีสัดส่วนถึง 29% ของสินเชื่อ SME ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ได้ประโยชน์จากโครงการช่วยเหลือ SME ที่ออกมา อย่างเช่นโครงการสินเชื่อซอฟท์โลน และการค้ำประกันสินเชื่อ
SPRC BUY
- เป้าหมาย 8.70 / 9.00 แนวรับ 8.00 / 8.20
- ราคาน้ำมันปรับขึ้น: ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. ราคาน้ำมันดิบทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 85-87 USD/bbl จากค่าเฉลี่ยประมาณ 81 USD/bbl ในช่วงไตรมาส 1/67 โดยคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านอุปทานที่ได้รับแรงกดดันจากภาวะสงคราม ทั้งในตะวันออกกลาง รวมถึงยุโรปที่ยังดำเนินอยู่ต่อเนื่อง
- คาดฤดูกาลขับขี่หนุน: ค่าการกลั่นมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงฤดูขับขี่ในสหรัฐฯ ช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันอากาศยานเพิ่มสูงขึ้น ช่วยหนุนให้ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้น