Daily Focus: Selective Play
2024 SET Target : 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้เล็กน้อยตามคาด ปิดบวก 6.12 จุด ที่ระดับ 1,294.70 จุด แต่ยังบวกได้อ่อนกว่าภูมิภาค ขณะที่มูลค่าการซื้อขายบางลงเหลือเพียง 2.7 หมื่นลบ. หุ้นขนาดใหญ่โดยรวมฟื้นตัวได้อ่อนๆ ขณะที่หุ้นขนาดเล็กหลายตัวยังเผชิญแรงขาย สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 212 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.3 พันลบ. (และปิดสถานะ Short ก่อนหน้า โดย Long Index Futures สุทธิสูงถึง 4.6 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways Up ฟื้นตัวระยะสั้นได้ต่อเนื่อง ทดสอบระดับ 1,300+- จุด โดยยังคงได้แรงหนุนจาก Sentiment บวกของตลาดต่างประเทศ ตลาดคาดหวังโอกาสในการลดดอกเบี้ยของ FED มากขึ้น หลังล่าสุดตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ADP และ ISM ภาคบริการเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯขยับลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.36% หลังจากพุ่งแตะ 4.5% ช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่โฟกัสของตลาดในสัปดาห์นี้ยังอยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะประกาศคืนวันศุกร์ หากออกมาชะลอตัวมากกว่าคาดจะส่งผลให้ Bond Yield ขยับลงได้ต่อเนื่องและเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง FED ที่อาจสามารถลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งปีนี้ ด้านปัจจัยในประเทศโดยรวมยังไม่มีประเด็นใหม่และยังคงถูก Overhang จากคดีการเมืองใหญ่ ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลครั้งถัดไปวันที่ 17 ก.ค. ส่วนคดีคุณเศรษฐาให้จับตาวันที่ 10 ก.ค. ว่าจะมีพัฒนาการเพิ่มเติมอย่างไร ทำให้หุ้น Domestic Play และดัชนีคาดยังฟื้นตัวได้จำกัด ส่วนระยะสั้นคาดยังเห็นการทยอย Cover Short ของนักลงทุน ต่างชาติ รวมถึงหุ้นพลังงานและเทคโนโลยีคาดหนุนตลาดวันนี้
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีแนวโน้มเติบโตแกร่งกว่าตลาดและมี ESG Rating สูง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ก.ค.: CPF, DOHOME, PHG, SAPPE, TTA
FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CPALL, CPN, GPSC, KCG, SHR, SJWD, TIDLOR, TU
หุ้นเด่น Finansia 4 ก.ค. 24 : SFLEX
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท
- คาดกำไรปกติ 2Q24 ที่ 55 ลบ. -13% q-q, +9% y-y โดย q-q ที่ลดลงเป็นผลจาก low season แต่กำไรที่เกิน 50 ลบ. ต่อไตรมาสถือเป็นระดับที่ดี รวมถึงส่วนกำไรจาก JV เวียดนามจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยบ.ร่วม SPV กำไร 2Q24 คาด +54% q-q โดยรวมปีนี้เชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ดีของ SLEX หลักๆ มาจากผลของการเพิ่มขึ้นของอุปทาน PE ใหม่ในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหนุนให้ผู้ผลิตพลาสติกปลายน้ำอย่าง SFLEX มี margin ที่สูงขึ้น
- หากกำไร 2Q24 ออกมาตามคาด รวมกำไร 1H24 จะคิดเป็นมากกว่าครึ่งของประมาณการของเราทั้งปี 2024 ที่ 224 ลบ. +23.4% y-y ซึ่งอาจทำให้เราปรับประมาณการกำไรเพิ่ม ปัจจุบันราคาหุ้นเทรด PER ต่ำเพียง 12.8 เท่า
- แนวรับ 3.34 บาท แนวต้าน 3.50//3.66-3.70 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนโดยรวมไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$517 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ประเทศละ US$207-256 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าอินโดนีเซียและไทยประเทศละ US$36-38 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลออก US$21 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวเพิ่มความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของ FED รวมถึงค่าเงินสกุลเอเชียที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) นักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ 26 (24 -30 มิ.ย.) สูงสุดในรอบ 16 สัปดาห์ อยู่ที่เฉลี่ย 9.4 หมื่นคน/วัน +3% w-w, +16% y-y โดยมีปัจจัยหนุนจากงาน Pride month รวมถึงการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวยุโรปจากการเข้าสู่ summer holiday และคิดเป็นการฟื้นตัวประมาณ 90-95% pre-Covid นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเป็นอันดับ 1 ที่ 1.9 หมื่นคน/วัน (+5% W-w และ +61% y-y) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ต่อเนื่อง คิดเป็นการฟื้นตัวประมาณ 65-70% pre-Covid ส่วนกลุ่ม non-Chinese เติบโต 8% y-y คิดเป็น 100-105% pre-Covid ภาพรวม 1H24 นักท่องเที่ยวรวม 17.5 ล้านคน ดีกว่าที่เราคาด 5% ทำให้แนวโน้มรวมปี 2024 คาดว่ามีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะไประดับ 36-37 ล้านคน สูงกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 35 ล้านคน เรายังให้น้ำหนักลงทุนกลุ่ม ท่องเที่ยวเป็น Overweight Top pick คือ MINT
(0) ITC แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q24 จะต่ำกว่าที่เคยคาด อยู่ที่ประมาณ 850 ลบ. +4% q-q, +91% y-y แต่สิ่งที่ดีคือ 1) สินค้าที่ส่งไม่ทันใน 2Q จะเลื่อนมาส่งใน 3Q และล่าสุด Secured order ไปแล้วราว 55% ของเป้าใน 3Q และ 2) ราคาปลาทูน่าที่ขยับขึ้น ส่วนปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ ผบห.มองเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และคาดจะเริ่มดีขึ้นในช่วงปลายปี แนวโน้มกำไร 3Q24 ทรงตัวถึงปรับขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q24 ได้ และมีโอกาสที่กำไรจะปรับขึ้นทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q24 สรุปแม้แนวโน้มกำไร 2Q24 อาจน้อยกว่าที่เคยคาด แต่ยังเป็นกำไรที่โต q-q, y-y และที่บวกมากขึ้นคือ ราคาขายอาจไม่ลดลงใน 2H24 ทำให้โมเมนตัมของกำไรยังใน 2H24 ยังดูดีต่อเนื่อง คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 3.2 พันลบ. +39% y-y และราคาเป้าหมาย 27 บาท ยังแนะนำซื้อ
(-) SC ยอด Presales 2Q24 ที่ 5.7 พันลบ. -5% q-q, -23% y-y ต่ำกว่าเป้าบริษัท 5% โดยยอดขายแนวราบลดลง 26% y-y ตามการชะลอตัวของตลาดแนวราบ แต่เพิ่มขึ้น 20% q-q จากการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนยอดขายคอนโด -36% q-q, -14% y-y เนื่องจากไม่มีเปิดโครงการใหม่ ทำให้ยอด Presales 1H24 -5% y-y คิดเป็น 42% ของเป้าทั้งปี ส่วนกำไร 2Q24 มีโอกาสต่ำกว่าที่เคยมอง เบื้องต้นคาด 300-400 ลบ. ฟื้น q-q จากฐานต่ำ แต่หดตัว y-y จากยอดโอนที่ถูกกดดันจาก Rejection Rate สูงขึ้นในบ้านระดับบน ปรับลดประมาณการปีนี้เป็น – 19% y-y และลดราคาเป้าหมายเป็น 3 บาท ยังแนะนำเพียง “ถือ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 23.85 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 39,308.00 จุด โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจากความเห็นของประธานเฟด และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐได้ตอกย้ำการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยขณะที่นักลงทุนรอดูการเลือกตั้งรอบสองของฝรั่งเศสและการเลือกตั้งทั่วประเทศของอังกฤษ
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ในวันนี้จะมีรายงานดัชนีกิจกรรมภาคธุรกิจของ ฮ่องกง และออสเตรเลียที่นักลงทุนจับตามอง
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 36.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.35%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 83.88ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันในระหว่างวันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันทั่วโลก ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบางก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 83.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.39%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 36 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 2,369.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอเกินคาด ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,368.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.05%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 834.81/ +0.17%