เราคาดกรอบ SET ที่ 1280-1315 จุด จับตารายงานผลประกอบการณ์ใน 2Q24

  • เราคาดกรอบ SET ที่ 1280-1315 จุด จับตารายงานผลประกอบการณ์ใน 2Q24 เริ่มโดย กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยเริ่มต้นที่ TISCO จะเริ่มประกาศงบในวันที่ 12 ก.ค. โดยเราคาดกำไรจะลดลงทั้ง yoy แล qoq (-13% yoy, -7% qoq) มีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนดอกเบี้ยและอัตราการสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น และ ภาพรวมกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เราประมาณการว่ากำไรสุทธิโดยรวมใน 2Q24 ของธนาคารใหญ่ห้าแห่งจะลดลง 1.8% yoy และ 7.2% qoq เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยคาดจะลดลง qoq เหลือ 3.39% / สินเชื่อจะยังเติบโตชะลอตัวใน 2Q24 เนื่องจากธนาคารยังใช้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เข้มงวด
  • สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจและปัจจัยต่างประเทศ ฝั่งอังกฤษ “เคียร์ สตาร์เมอร์” ว่าที่นายกอังกฤษ นำพรรคแรงงานเอาชนะไปได้อย่างขาดลอยกลับมาเป็นฝ่ายรัฐบาลในรอบ 14 ปี โดย ตลาดกำลังจับตาเรื่องของนโยบาย และ จับตาเงินเฟ้อสหรัฐเดือน มิ.ย. สัปดาห์นี้ โดยตลาดคาด +0.1% mom
  • กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นเทรดดิ้งกลุ่ม Mid-Small cap ที่ภาพรวมกำไร 2Q, 2H24 แข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT / Hospital)
  • เราแนะนำ KLINIQ ITC TU GFPT KCE HANA CPF TFG ADVANC BDMS
  • ส่วน Domestic play ที่เรามองว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาพอสมควรและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (Undemanding Valuation) ได้แก่ CRC LH BBL HMPRO ซึ่งเรามองเป็นการ DCA เพื่อรอการฟื้นตัวใน 4Q24 (เน้นสะสมช่วงปลาย 3Q24)

หุ้นแนะนำ

  • ITC
    • เราคาดว่า TU จะมีกำไรปกติแข็งแกร่งใน 2Q24 จากยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (ITC) และอาหารทะเลแปรรูปที่เพิ่มขึ้น และจากทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนและราคาวัตถุดิบที่ส่งผลดีต่อบริษัท
    • เราคาดว่าบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC TB; non-rated) จะปรับเพิ่มเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายจากปัจจุบันที่ 15% รวมทั้งปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากปัจจุบันที่ 21-22% (เป็น 24-25%)
    • (Take profit : 24.20 / Stop loss : 22.70)
  • ADVANC
    • เราคาดว่า AIS จะทำกำไรสุทธิ 8.57 พันล้านบาท (+19.4% yoy, +1.4% qoq) ใน 2Q24 ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิใน 1H24 มีสัดส่วน 58% ของประมาณการทั้งปี
    • เราเชื่อว่ายอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์สุทธิใน 2Q24 จะเพิ่มขึ้น qoq จากการแข่งขันที่ทรงตัวและการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
    • (Take profit : 213.00 / Stop loss : 205.00 )

Daily Global Market | 8 กรกฎาคม 2024

In News:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในวันศุกร์ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่า FED อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้ หลังจากรายงานการจ้างงานประจำเดือนมิถุนายนที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง
  • ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐประจำเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 206,000 ตำแหน่งจากระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 200,000 ตำแหน่ง แต่ลดลงจากระดับ 218,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ 4.1% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.0%
  • Sir Keir Rodney Starmer KCB KC เริ่มการทำงานเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศอังกฤษเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมพูดคุยกับผู้นำโลก และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หลัง Labour Party ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ทำให้การปกครองของพรรคอนุรักษนิยมที่ครองการปกครองมายาวนานถึง 14 ปีสิ้นสุดลง
  • ราคาบ้านในอังกฤษลดลงเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน แต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้และในปี 2025 โดยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในไม่ช้านี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลง 0.2% เมื่อเดือนที่แล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และในช่วง 12 เดือนถึงมิถุนายน ราคาเพิ่มขึ้น 1.6%
  • การผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีขยับตัวลงในเดือนพฤษภาคม 2.5% ขณะที่ฝรั่งเศสปรับลด 2.1% แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซนที่มุ่งหน้าสู่ช่วงฤดูร้อน
  • ผลสำรวจของ Reuters เมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ให้เห็นว่า ราคาขายส่งของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ต้นทุนสินค้านำเข้าที่สูงขึ้น และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักจะฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการลงทุนทางธุรกิจ
  • การใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่นประจำเดือนพฤษภาคมขยับลดลงมากกว่าคาด 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ Reuters คาดว่า จะขยับบวก 0.1% สำหรับค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนดังกล่าวอยู่ที่ JPY 290,328 ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ JPY 500,231 หรือขยับขึ้น 6.4%
  • BOCI ออกรายงานว่า หุ้นฮ่องกงจะยังคงผันผวนสูงในช่วง 2H24 แต่จะมองในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มหุ้นฮ่องกงในช่วงนี้ โดยเชื่อว่า National Nine Regulations จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าที่ดีของฮ่องกง ทั้งนี้ BOCI คาดว่า จะมีนโยบายเพิ่มเติมในช่วง 2H24 เพื่อปรับปรุงสภาพคล่องของหุ้นฮ่องกง จากข้อมูลของ BOCI การประเมินมูลค่าตลาดหุ้นฮ่องกงในปัจจุบันยังคงน่าสนใจ และคาดว่า HSI จะสูงถึง 20,010 ภายในสิ้นปีนี้
  • ยอดค้าปลีกสิงคโปร์ประจำเดือนพฤษภาคมขยับตัวสูงขึ้น 2.4% MoM จากเดือนก่อนหน้าที่ปรับตัวลง 2.6% หากพิจารณารายปี ยอดค้าปลีกปรับบวก 2.2% YoY จากที่ลดลง 1.2% ในเมษายน จากยอดขายยานยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

Stock Movement:

  • หุ้น Tesla Inc. (TSLA ND) ปรับตัวขึ้น 2.08% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทหลายแห่งที่เป็นของรัฐบาลจีนในเซี่ยงไฮได้ซื้อรถยนต์รุ่น Model Y ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นขายดีที่สุดของ Tesla ไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง สืบเนื่องมาจากสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รถยนต์ Tesla ได้รับการอนุมัติให้สามารถเข้าร่วมอยู่ในรายการจัดซื้อของหน่วยงานรัฐบาลจีน
  • หุ้น Macy’s Inc. (M NYSE) ทะยานขึ้น 9.54% หลังจากที่บริษัท Arkhouse Management และ Brigade Capital Management ได้ยื่นข้อเสนอซื้อห้างสรรพสินค้า Macy’s เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าประมาณ USD 6.9 bn.
  • หุ้น Coinbase Global Inc. (COIN ND) ร่วงลง 0.56% เนื่องจากตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้รับผลกระทบจากราคา Bitcoin ที่ร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ในการซื้อขายเมื่อคืนวันศุกร์
  • หุ้น Amazon. com Inc. (AMZN ND) ขยับบวก 1.22% หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการที่บริษัท Amazon ดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Digital Services Act
  • หุ้น Volkswagen Group (VOW3 ETR) ปิดลบ 0.70% บริษัทระงับการขายบริษัทในเครือ Volkswagen ให้กับจีน เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง การดำเนินดังกล่าวอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับจีนคู่ค้ารายใหญ่ของเยอรมนี
  • หุ้น Varta AG (VAR1 ETR) ปรับบวกอย่างแข็งแกร่ง 19.06% หลังจากที่ผู้ผลิตแบตเตอรี่สัญชาติเยอรมันกล่าวว่ากำลังเจรจากับ Porsche AG (P911 ETR, +1.95%) เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรูปแบบขนาดใหญ่
  • หุ้น Atos SE (ATO EPA) ปรับตัวลง 4.89% บริษัทประสบความสำเร็จการระดมทุนระยะสั้นผ่านการกู้ยืมจากเจ้าหนี้ และคาดว่า จะบรรลุข้อตกลงปรับโครงสร้างองค์กรขั้นสุดท้ายภายในเดือนนี้
  • หุ้น BNP Paribas SA (BNP EPA, -0.41%) และผู้ให้กู้ชาวสวิส UBS Group AG (UBSG SWX, -0.37%) กำลังแสดงความสนใจในการซื้อหน่วยบริหารจัดการความมั่งคั่งของ HSBC ในเยอรมนี
  • หุ้น Shell Plc. (SHEL LON) ปิดลบ 1.45% บริษัทประกาศว่า จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการด้อยค่าสูงสุด USD 2 bn. หลังจากการขายโรงกลั่นในสิงคโปร์ และระงับการก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
  • หุ้น Xpeng Inc. (9868 HK) ร่วงลง 3.03% เพื่อตอบสนองต่อการกำหนดอัตราภาษีชั่วคราวของสหภาพยุโรปสำหรับ EV ที่ผลิตในจีน บริษัทกำลังประเมินความเป็นไปได้ในการสร้างกำลังการผลิตท้องถิ่นในยุโรป และกำลังใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
  • Macquarie เห็นความยืดหยุ่นอุตสาหกรรมเกมแม้มีความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยปรับเพิ่มการคาดการณ์รายได้สำหรับเกม Dungeon & Fighter ของ Tencent Holdings Ltd. (0700 HK, -0.68%) อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะอยู่ระหว่าง Rmb 18 bn. – 20 bn. ทำให้การคาดการณ์รายได้เกมเพิ่มขึ้น 5% พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้น 2% สู่ระดับ HKD 481 ขณะเดียวกัน NetEase Inc. (9999 HK, -1.36%) คาดว่าจะบรรลุการเติบโต 15% YoY ของรายได้จาก iOS แม้ว่าจะมีการเปรียบเทียบที่ยากลำบากและมีเกมออกใหม่น้อยลงก็ตาม
  • หุ้น China Tower Corp. Ltd. (0788 HK) ขยับตัวลง 0.96% Goldman Sachs เผยว่า บริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลปี 2026 จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในกำไรสุทธิในปีดังกล่าว เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่ลดลง ซึ่งคาดว่า จะลดลง Rmb 6.1 bn. ทั้งนี้ Goldman Sachs ยังคาดว่า กำไรสุทธิในปี 2024/2025 จะเพิ่มขึ้น 12% ต่อปี และกำไรสุทธิปี 2026 จะเพิ่มขึ้น 49% สู่ระดับ Rmb 18.2 bn.
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard
- Advertisement -