- สหรัฐฯแกร่ง ส่วนไทยมีรัฐกระตุ้น / 1,315-1,330
- มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET แคว่งขึ้นเบาๆ: แรงหนุนจากมาตรการรัฐและศก.สหรัฐฯ ที่ยังแกร่ง หากแต่ลดทอนด้วยความกังวลศก.จีน ทั้งนี้ คาดแรงหนุนมาจากการที่ครม.มีมติเห็นชอบให้ธ.ออมสิน ดำเนินโครงการให้สินเชื่อตามมาตรการกระตุ้นศก.และช่วยเหลือประชาชนรายย่อย และโครงการ Soft Loanวงเงิน 1 แสนลบ. โดยก.คลังคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบศก.และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ GDP ได้ประมาณ 0.27% อีกทั้งวันนี้ติดตามการประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ เพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนลบ. เพื่อใช้ในการดำเนิน Digital Wallet ซึ่งหากมีความคืบหน้าเพิ่ม จะเป็น Sentiment หนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ประเด็น GULF แจ้งปรับโครงสร้าง ควบรวม INTUCH และเสนอซื้อหุ้น ADVANC, THCOM เบื้องต้นทางฝ่ายมอง Positive เนื่องจากจะส่งผลให้การดำเนินงานในแต่ละธุรกิจมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ภาพศก.และผลประกอบการในฝั่งสหรัฐฯคาดเป็นอีก Sentiment ทางบวกต่อ SET Index หลัง 1) สหรัฐฯเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.67 ที่ 0.0% m-m เม้ชะลอลงจาก 0.3% m-m ในเดือนพ.ค.67 หากแต่สวนทางตลาดคาดที่หดตัว 0.3% m-m และหากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน เพิ่มขึ้น 0.8% m-m ร่งขึ้นจาก 0.3% m-m ในเดือนพ.ค.67 และสูงกว่าตลาดคาดที่ 0.2% m-m เป็นการสะท้อนภาพว่าการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลให้ศก.สหรัฐฯเผชิญภาวะถดถอย และ 2) Bank of America และ Morgan Stanley เผย EPS ใน 2067 ที่ $0.83 และ $1.82 มากกว่าตลาดคาดที่ $0.80 และ $1.65 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัดท่ามกลางความกังวลว่าการชะลอตัวของศก.จีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง สอดรับกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับลง 1.4% ปิดที่ 580.76 ต่อบาร์เรล ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ติดตามการเผย CPI เดือนมิ.ย.67 ของยูโรโซน ตลาดคาด Headline ที่ 2.5%y-y ชะลอลงจาก 2.6% y-y ในเดือนพ.ค.67 และ Core ที่ 2.9% y-y เท่ากับเดือนก่อน
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 2Q67: BTG, KTB 2) ท่องเที่ยว+Spending: AWC, BA, CENTEL, COCOCO, CPALL, CPAXT, OSP 3) งานภาครัฐฯ: BEM, CK 4) หวังดอกเบี้ยโลกขาลง: DELTA, KCE, SAWAD และ 5) Selective: ADVANC, GULF, INTUCH, THCOM
ปัจจัยบวก
- รมว.ท่องเที่ยวฯเผยจากกระแสการท่องเที่ยวตามรอย MV เพลง Rockstar ของลิซ่า มีผลกระตุ้นให้สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 155,717 คน สูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ส่วนภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ก.ค.67 ทั้งสิ้น 18.9 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 8.91 แสนลบ.
- ครม.เห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน พัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เหลือ 0.125% ต่อไปอีก 1 ปี เพื่อสนับสนุนธนาคารรัฐในการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในการการฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติได้มากขึ้น
- ครม.มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 วงเงินงบประมาณโครงการฯ รวม 2,302.16 ลบ.
- ครมมีมติเห็นชอบสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยในวันที่ 18 ก.ค.67 รฟม.จะลงนามในสัญญาร่วมกับ BEM ในฐานะผู้ชนะการประมูล
- IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ศก.ไทยปี 2567 สู่ 2.9% จากคาดเดิมที่ 2.7%
ปัจจัยลบ
- รองโฆษกสำนักนายกฯเผยก.คลังยังไม่ได้เสนอการปรับเงื่อนไขกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (Thai ESG) เข้ามาให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเมื่อวานนี้
- UBS เผยผลการวิจัยระบุว่าการกำหนดภาษีศุลกากรใหม่ 60% สำหรับสินค้าส่งออกของจีนทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ จะทำให้อัตราการเติบโตต่อปีของศก.จีนลดลงเกินครึ่ง ซึ่งตอกย้ำความเสี่ยงที่จีนอาจจะต้องเผชิญหากอดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯอีกครั้ง
- ศูนย์วิจัยศก.ยุโรป (ZEW) เผยดัชนีความเชื่อมันทางศก.ของยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับ 43.7 ในเดือนก.ค.67 จากระดับ 51.3 ในเดือนมิ.ย.67 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 48.1
PICKS OF THE DAY
CENTEL BUY
- เป้าหมาย 43.00 / 44.00 แนวรับ 41.00
- Lisa Effect หนุนจำนวนนทท.เข้าไทย : รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวเผยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.55 แสนคน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 9 สัปดาห์ รับปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวตามรอย MV เพลง Rockstar และ การอนุมัตฟรีวิซ่าเพิ่มเป็น 93 ประเทศ หนุนภาคการท่องเที่ยว
- 2Q67 ปีนี้มีแรงหนุนจากญี่ปุ่น: CENTEL มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นกว่า 10% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมทั้งหมด และ 2Q ปีนี้เป็นไตรมาส 2 ที่จะมีผลประกอบการของโรงแรม Grand Osaka ในญี่ปุ่นเข้ามาช่วยหนุนเป็นครั้งแรก มองจะช่วยพยุงผลประกอบการณ์ธุรกิจโรงแรม ใน 2Q67 ที่มักเป็น Low Season ผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่เร่งตัว
CK BUY
- เป้าหมาย 20.50 / 21.00 แนวรับ 19.00 / 19.50
- คาดงบ 2Q67 ฟื้นตัว q-q: 2Q67 คาดรายได้ก่อสร้างยังอยู่ในระดับสูงที่ 9.4 พันลบ. แต่ไตรมาสนี้จะได้ปันผลจาก TTW เพิ่มและส่วนแบ่งกำไรที่ฟื้นตัว q-q จาก BEM และ CKP คาดกำไรสุทธิฟื้นตัว q-q
- ซื้อเก็ง Backlog: มีลุ้นได้ Backlog เพิ่มจากงานรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่างานรวมกว่า 1.09 แสนลบ. และ Double Deck ที่วงเงินลงทุนกว่า 4 หมื่นลบ. ที่ทั้ง 2 โครงการนี้ BEM ได้เป็นเจ้าของงาน อาจเห็น CK มี Backlog เพิ่มแตะระดับ 2 แสนลบ. ภายในปีนี้ถึงต้นปีหน้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้นมากหากเทียบจากปัจจุบัน ณ 1Q67 มี Backlog อยู่ที่ 1.2 แสนลบ.