Daily View

เมื่อคืนที่ผ่านมา FED ส่งสัญญาณจะเริ่มลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) เฉลี่ยเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นลดวงเงินซื้อพันธบัตรสหรัฐเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดวงเงินตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันจำนองเดือนละ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป พร้อมประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ได้ส่งสัญญาณเพิ่มเติมว่า FED ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างตายตัว และพร้อมจะปรับมาตรการหากมีความจําเป็นภายหลัง จากแถลงพบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปีเคลื่อนไหวที่เดิมราว 0.46% และ 10 ปีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.59% จาก 1,53% บ่งชี้ว่าตลาดยังเชื่อมั่นว่า FED จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีหน้ามาอยู่ที่ 0.5% ขณะที่ตลาดมีมุมมองที่เป็นบวกกับเศรษฐกิจระยะยาวมากขึ้น ส่วน Dow Jones ปิดบวก 0.29% ระยะสั้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อ SET INDEX รวมถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ต่อแนวโน้มดอกเบี้ยที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะเดียวกันวันนี้อาจเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับฐานแรง 3.2% เนื่องจากสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ สำหรับราคาน้ำมันดิบคืนนี้ OPEC+ จะมีการประชุมตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามา 4 แสนบาร์เรล/วัน หากเป็นไปตามนี้ก็ไม่น่าจะมีผลอะไรกับราคาน้ำมัน ทั้งนี้ควรจับตาภาครัฐต่อการควบคุมราคาน้ำมันภายในประเทศ หลังราคาน้ำมันดิบโลกเริ่มปรับฐาน อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ภาครัฐเลิกแทรกแซง โดยเฉพาะปรับลดค่าการตลาด ซึ่งจะทำให้กลุ่มปั้มน้ำมันมี Margin ที่ดีขึ้นเป็นบวกต่อ (OR PTG) ส่วนการปรับฐานของราคาน้ำมันจะเป็นบวกต่อหุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (AAV BA BGC SCC TASCO) มอง SET INDEX ปรับตัวขึ้นตามจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลก วางกรอบ 1612-1622

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นแนะกลุ่ม Bank (BBL KBANK SCB) รวมถึงกลุ่มที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน (AAV BA BGC SCC SCGP TASCO) ส่วนทยอยสะสมยังแนะ Domestic Play เช่นเดิม อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) รถไฟฟ้า BTS BEM) หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะ (CBG PTG SCGP)

Stock Pick

SCC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 445 บาท) 4Q21 คาดกำไรเติบโตจาก Spread ปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว อีกทั้งความต้องการที่สูงขึ้นของแพคเกจจิ้งและปูนซีเมนต์หลังจากการคลายล็อกดาวน์ ส่วนระยะสั้นได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ซึ่งเป็นต้นทุนของ SCC

KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 174 บาท) มองว่ากำไรจะฟื้นตัวใน 4Q21 จากการขยายสินเชื่อกลุ่มธุรกิจและ SME หลังจากคลายล็อกดาวน์ รวมทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศในปีหน้า เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสูง ขณะที่วันนี้อาจมีจิตวิทยาเชิงบวกอยู่บ้างจากการเข้าซื้อ Bitkub ของ SCB

- Advertisement -