สรุปภาวะตลาด

วันพุธท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงถึง -10 จุด ในช่วงบ่าย ก่อนลดช่วงลบในท้ายตลาด จากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่จำนวนมาก มีเพียงหุ้นกลุ่มธนาคาร การเงิน ที่ปรับตัวข้ึนแข็งกว่าตลาด ได้แก่ หุ้น DELTA, BAY, SCB, TIDLOR นักลงทุนติดตามการประชุม FED ถึงมุมมองต่อของอัตราเงินเฟ้อ และการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมไปถึงการลดวงเงิน QE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,611.92 จุด -5.97 จุด -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 84,727 ลบ.ต่างชาติ +268.88 ลบ. TFEX +5,367 สัญญา ตราสารหน้ี +1,686.43 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มข้ึน 104.95 จุด+0.29% ดัชนีหลักท้ัง 3 ดัชนียังคงปิดทำนิวไฮหลังจาก FED ประกาศแผนการปรับลดวงเงิน QE ตามคาด เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากพอ

+ สหรัฐเปิดเผยว่าคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ เพิ่มข้ึน 0.2% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด หรือเพิ่มข้ึน 0% หลังจากดีดตัวข้ึน 1.0% ในเดือนส.ค.

+ PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวข้ึนสู่ระดับ 58.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนก.ค. จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ย.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มข้ึนของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

+ ADP และมูด้ีส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 571,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. จากระดับ 523,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

+ที่ประชุมกกร. ปรับเป้าประมาณการ GDP ปี 2564 เป็น 0.5-1.5% ดีข้ึนจากเดิม 0 – 0.1% คงคาดการณ์ส่งออกขยายตัว 12-14% (หากไม่เกิดโควิดระบาดซ้า) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเปิดประเทศในช่วงปลายปี

+สศค. ประกาศปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อพิโก ไฟแนนซ์แบบมีหลักประกันจาก 36% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก เหลือ 33% ต่อปี เฉพาะในส่วนวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทแรก

ปัจจัยลบ

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.05 ดอลลาร์ -3.6% ปิดที่ 80.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุด นับต้ังแต่วันท่ี 13 ต.ค. 2564 หลังจาก EIA เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบพุ่งข้ึนมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุน เทขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งข้ึนก่อนหน้านี้

– ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศจีนเพิ่มขึ้น เกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคในกรุงปักกิ่ง ก่อนที่การประชุมผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จะเปิดฉากในสัปดาห์หน้า

– กลุ่มตาลีบันประกาศห้ามใช้สกุลเงินต่างประเทศในอัฟกานิสถาน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกอยู่ในภาวะชะงักงันต่อไป

– ภาคประชาชน ยื่นหนังสือคัดค้านแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,982 ราย มีผู้เสียชีวิต 68 ราย รักษาหาย 8,029 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ียังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง ขณะที่เฟดประกาศแผนการปรับลดวงเงิน QE ตามท่ีตลาดคาด นักลงทุนยังมองกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1600-1,620 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH LPN
  • ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต TU NER TWPC SKN HTECH
  • หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี GULF EKH KCE WICE SKN

หุ้นรายงานพิเศษ

BBL (Bloomberg Consensus 148 บาท) Consensus คาดกำไรปี 64 เติบโตสูงสุดในกลุ่ม

  • 3Q64 กำไร 6,909.20 ลบ. +72%YoY +9%QoQ 9M64 มีกำไร 20,189 ลบ. +37%YoY ขณะที่ภาพรวม 4Q64 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง QoQ โดยเริ่มเห็นสัญญาณดีตั้งแต่เดือนต.ค.จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น พร้อมกับการเปิดประเทศ ตั้งแต่ 1 พ.ย.
  • ผู้บริหารยืนยันเป้าหมายทางการเงินปี 64 ตามเดิมท่ีคาดว่าสินเช่ือเดิบโต 3-4%YoY NIM 2.1% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตราว 3-4% และการบริหารจัดการ NPL ได้ตามเป้าท่ีระดับไม่เกิน %NPL 4.5% จากระดับ 3.7% ณ ปลายก.ย. 64 ซึ่งลดลงจากระดับ 3.9% ณ ปลายปี 63 ขณะท่ีอัตราส่วนค่าเผื่อหน้ีสงสัยจะสูญต่อ NPL (%Coverage Ratio) สูงสุดในกลุ่มท่ี 198.8%
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวหลังการเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว และรอฟังว่าดีลซื้อสินทรัพย์ภายในเดือนธ.ค.จะได้ข้อสรุปหรือไม่ ราคาหุ้นซื้อขายท่ี PBV 0.51 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มท่ีระดับ 0.72 เท่า Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 25,809 ลบ. +50%YoY ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไรสูงที่สุดในกลุ่ม แนะนำ ซื้อ

     

หุ้นมีข่าว

(+) SSP (Bloomberg Consensus 18.09 บาท) ใช้เงิน 170 ล้านบาท ซื้อหุ้น PP โนวา เอมไพร์ 9.64% หนุนแผนเก็บใบอนุญาตขายไฟฟ้าครบ 400 เมกะวัตต์ พร้อมพุ่งเป้าสู่พลังงานอาเซียน ส่องทิศทางรายได้ปี 2565 โตไม่น้อยกว่า 20% เปิดกรุรับเงินโรงไฟฟ้าเวียดนาม-ญี่ปุ่นเต็มปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TM (Bloomberg Consensus – บาท) ส่อแววกลับมาผงาดครึ่งปีหลัง คาดผลงานฟื้นตัวโดดเด่นรับอานิสงส์ยอดขาย ATK ทั้งในแบบ Professional Use และ Home Use ดันรายได้พุ่ง พร้อมจัดกระบวนทัพใหม่ ปั้นแบรนด์ “TM Herb” เป็นของตัวเอง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SFT (Bloomberg Consensus 9.25 บาท) “ชริ้งเฟล็กซ์” เดินหน้าสร้างโรงงานแห่งที่ 2 มูลค่า 180 ล้านบาท เร่งขยายไลน์ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน พร้อมเดินเครื่องผลิตไตรมาส 3/65 รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RPH (Bloomberg Consensus 7.60 บาท) ฉายแววผลงานไตรมาส 4/2564 โตต่อ แม้โควิด- 19อคลี่คลาย ชี้คนไข้ OPD/IPD กลับมารักษาสุขภาพเพิ่มข้ึน ปูพรมบุ๊กรายได้บริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา มั่นใจผลงานปี 2564 ทุบสถิติ พร้อมวางเป้าปี 2565 รายได้เติบโตต่อเนื่อง อัดงบ 450 ล้านบาท ขยายบริการรักษาเฉพาะทาง-รีโนเวตโรงพยาบาลแห่งแรก (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 5 พ.ย.กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
  • สัปดาห์ที่ 2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน และอัพเดตสถานการณ์ลงทุน ตลท.แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
  • 10 พ.ย.ประชุมกนง.ครั้งที่ 7/2564
  • สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 15-16 พ.ย.ประชุมครม.สัญจร จ.กระบี่
  • 15 พ.ย. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP 3Q64 กำหนดวันสุดท้ายส่งงบ 3Q64
  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคต เศรษฐกิจภูมิภาค

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 4 พ.ย.ประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส

อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมาร์กิต ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.

สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลการค้าเดือนก.ย.

  • 5 พ.ย.อียูรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.ย.

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค.

  • 7 พ.ย.จีนรายงานยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค.
  • 9 พ.ย. อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จากสถาบัน ZEW

สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

- Advertisement -