Daily View

เมื่อคืนที่ผ่านมาที่ประชุม OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามา 4 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. 21 ภายหลังจากทราบปัจจัยดังกล่าว ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลง 1.8% นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ส่งผลเชิงลบต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของสินค้าโภคภัณฑ์จะทำให้ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกผ่อนคลายกับเรื่องของเงินเฟ้อ ลดโอกาสที่ FED จะเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด (บวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก) ซึ่งปัจจุบันเริ่มพบว่าสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน ถ่านหิน ค่าระวางเรือ เริ่มปรับตัวลง ขณะเดียวกันจะมีหุ้นได้ประโยชน์อย่างกลุ่มที่มีสินค้าโภคภัณฑ์เป็นต้นทุน อาทิ (BGC CBG EPG OSP PTG SCGP TASCO) ส่วนปัจจัยอื่นๆ จะเป็นภาคแรงงานสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดที่ 4.5 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 4.7% เชื่อว่าหากจะเป็นบวกต่อตลาด คือไม่ควรเป็นตัวเลขที่ร้อนแรงมากนัก เนื่องจากประชุม FED ล่าสุดทิศทางการดำเนินนโยบายค่อนข้างผ่อนคลาย และส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นได้ สำหรับ SET INDEX วันนี้คาดกลับมาแกว่งกรอบ 1620 – 1632 เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยยะสำคัญ รวมถึงเมื่อวานปรับตัวขึ้นมาแล้วราว 0.89%

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิม ในกลุ่ม Domestic Play ที่ยัง Laggard อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) รถไฟฟ้า (BTS BEM) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ธนาคารพาณิชย์ (BBL) ปั๊มน้ำมัน (PTG) ร้านอาหาร (M) ส่วนระยะสั้น เน้นเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง (BGC CBG EPG KCE OSP PTG SCGP TASCO)

Stock Pick

SCGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72 บาท) คาดว่า 3Q21 เป็นจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะค่อยๆฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q21 เป็นต้นไป จากการคลายล็อกดาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนาม ขณะที่ปัจจุบันราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอตัวลงเป็นบวกต่อต้นทุนที่จะลดลง (Margin ดีขึ้น)

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 103 บาท) แนวโน้มอัตรากำไรขยายตัวใน 3Q21 ตามการรับรู้ผลประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาเต็มไตรมาส แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการประหยัดค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร ขณะที่ราคาทองแดงที่เป็นต้นทุนของบริษัทเริ่มปรับตัวลงเป็นบวกต่อต้นทุนที่จะลดลง

- Advertisement -