บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Global Power Synergy (GPSC.BK / GPSC TB) ผลประกอบการ 3Q64: เป็นไปตามคาด

Event

กำไรจากธุรกิจหลักของ GPSC ใน 3Q64 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (-22.6% YoY, -17.0% QoQ) เป็นไปตามประมาณการของเรา และ Bloomberg consensus โดยบริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 72 ล้านบาท, มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าตราสารทางการเงิน 23 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย amortization ของ GLOW 287 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิใน 3Q64 อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท (-27.2% YoY, -18.6% QoQ) ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M64 คิดเป็น 80.0% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

Impact

กำไรจากธุรกิจหลักลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิง, การหยุดโรงไฟฟ้านอกแผน และ AVAADA

ถึงแม้ว่าอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าจาก IU จะเพิ่มขึ้น (+15% YoY, -0.2% QoQ) รวมถึงอุปสงค์ไอน้ำด้วย (+12% YoY and +2% QoQ) แต่กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจาก i) ต้นทุนเชื้อเพลิงแพงขึ้น เนื่องจากทั้งราคาของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งคู่ ii) มีการหยุดโรงไฟฟ้า GHECO-One นอกแผนนาน 28 วัน (30 สิงหาคม-27 กันยายน) และ Glow Energy เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม เป็นต้นมา โดยตั้งเป้าว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 iii) รับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก Avaada (-31 ล้านบาท) ประกอบด้วยกำไรจากการดำเนินงาน (+19 ล้านบาท), ขาดทุนจากการบันทึกมูลค่าตราสารอนุพันธ์ตามราคาตลาด (-24 ล้านบาท) และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (-26 ล้านบาท)

ค่าสินไหมงวดที่สองสำหรับ Glow Energy เฟส 5 ยังไม่ออกใน 3Q64 แต่จะจ่ายใน 4Q64 แทน

มีการปิดโรงไฟฟ้า Glow Energy เฟสที่ 5 นอกแผน i) ระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน 2563 – 18 ตุลาคม 2563 และระหว่างธันวาคม 2563 – 1 เมษายน 2564 สำหรับกรณีที่เกิดปัญหากับกังหัน และ ii) ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2560 เป็นต้นมา จากกรณีที่เกิดปัญหากับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทั้งนี้ มีการคาดกันว่า Glow Energy เฟส 5 จะกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยมีการจ่ายนค่าสินไหมงวดแรกจากกรณีกังหันมีปัญหา 310 ล้านบาทมาแล้วใน 2Q64 และบริษัทตั้งเป้าว่าจะได้ค่าสินไหมงวดที่สองใน 4Q64 ในขณะที่กรณีปัญหาที่เกิดกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุอยู่

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 94.50 บาท เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q64F จะลดลงเล็กน้อย QoQ โดยจะมีทั้งปัจจัยบวกและลบซึ่งปัจจัยบวก ได้แก่ i) ค่าสินไหมประกันจากกรณีโรงไฟฟ้า Glow Energy เฟสที่ 5 ii) รับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจาก AVAADA ในขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ i) แรงกดดันจากราคาก๊าซและถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้น ii) มีการปิดซ่อมบำรุง SRC, GIPP, CUP-1, CUP-4, GSPP11 ตามกําหนด และ iii) dispatch factor ของโรงไฟฟ้า IPP, SPP และโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลง ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 9,172 ล้านบาท

Risks ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่

- Advertisement -