สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นเพียงช่วงสั้นในภาคเช้า หลังจากนั้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ปิดทรงตัว มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม เช่นหุ้น AOT, CRC, AWC ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังเรื่องยารักษาโควิด-19 จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากข้ึน แต่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย DELTA ที่มีปัจจัยเฉพาะตัวเรื่องเกณฑ์ใหม่ในการคำนวณดัชนี SET50/100 ซึ่ง DELTA-13.5% ส่งผลต่อดัชนีราว -6.5 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,626.13 จุด -0.09 จุด -0.01% มูลค่าการซื้อขาย 86,640 ลบ.ต่างชาติ +2,764.79 ลบ. TFEX -8,541 สัญญา ตราสารหนี้ +4,915.18 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 104.27 จุด +0.29% ดัชนี S&P500 ทำสถิติใหม่ ขานรับสภาคองเกรสสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งข้ึน ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวัสดุ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 66 เซนต์ +0.8% ปิดที่ 81.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ปัจจัยบวกจากการท่ีสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกม.ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ

+ ญี่ปุ่นรายงานว่าไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโรคโควิด-19 เมื่อ 7 พ.ย. นับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนหลังมีความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนและยารักษาโควิด

+ สหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำส่ังห้ามชาวต่างชาติจากกว่า 30 ประเทศเดินทางเข้าประเทศอย่างเป็นทางการ

+ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.64 ปรับขึ้นจากก.ย.ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ดัชนีฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าแตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน เนื่องจากการคลายล็อกดาวน์  การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ รวมถึงคำสั่งซื้อสินค้าช่วงเทศกาลปีใหม่

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศวันนี้ต่ำกว่า 7,000 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 6,904 ราย ATK 1,497 ราย มีผู้เสียชีวิต 61 ราย รักษาหาย 8,024 ราย

ปัจจัยลบ

– อดีตรมว.กระทรวงพลังงานสมัยนายโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีนโยบายพลังงานของคณะบริหารภายใต้การนำของปธน.โจ ไบเดน ระบุว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อ การมีข้อจำกัดด้านอุตสาหกรรม น้ำมันสหรัฐและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอาจนาชาติไปสู่หายนะได้

– ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปจับตาปัญหาแร่แมกนีเซียมขาดแคลน แต่คาดยังไม่กระทบการผลิต

– กรมอุทกศาสตร์เตือน น้ำทะเลหนุน สูงช่วง 05.00 – 20.30 น. ของทุกวัน ถึง 14 พ.ย. 64

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด นักลงทุนยังติดตามผลการ ประกาศประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และสถานการณ์น้ำท่วม กทม. ริมฝั่งแม่น้าเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด มอง กรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1620-1,633 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเท่ียว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • หุ้นได้ประโยชน์จากธปท.คลายกฏ LTV เน้นลงทุนหุ้นอสังหาฯ P/E ต่ำ แนะนำ LH QH AP SPALI SIRI ORI LALIN PSH
  • ยอดส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต TU NER TWPC SKN HTECH
  • หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q64 ออกมาดี GULF EKH KCE WICE SKN

หุ้นรายงานพิเศษ

PIN – บมจ. ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (ราคา IPO 3.90 บาท)

  • ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นท่ีจังหวัดชลบุรีและระยอง พร้อมระบบ สาธารณูปโภค ประเภทอาคารโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่าและขายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม รวมถึงลงทุนและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (PPF)
  • สัดส่วนรายได้ในปี 63 แบ่งเป็น 1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 78% 2.รายได้จากการให้เช่าและ บริการ 17% และอิ่นๆ 5% รายได้ปี 61-63 เท่ากับ 965 ลบ. 867 ลบ. และ 1,128 ลบ. ตามลำดับ CAGR=8% ต่อปี ในปี 63 รายได้ +30%YoY สาเหตุจากการขายท่ีดินนิคมอุตสาหกรรมได้มากกว่าปีก่อนหน้า ส่งผลให้มีกำไรสุทธิท่ี 215 ลบ. 206 ลบ. และ 347 ลบ. ตามลำดับ กำไรปี 62 -4%YoY ปี 63 +68%YoY ช่วง 1H64 มีรายได้ 326ลบ.+9.8%YoY สาเหตุจากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วในนิคม อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 99 ลบ. +78.7%YoY
  • เสนอขายหุ้นจำนวน 290 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ มูลค่าการเสนอขาย 1,131 ลบ. Par 1 บาท มูลค่าตลาด ณ ราคา IPO เท่ากับ 4,524 ลบ. วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1.การลงทุนในโครงการพื้นท่ีโลจิสติกส์แห่งใหม่ 770 ลบ. 2. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 275 ลบ. 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 47.2 ลบ.
  • มีหุ้นที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 204 ล้านหุ้น หรือ 17.55% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
  • P/E เสนอขายที่ 10.11x เทียบกับบริษัทท่ีประกอบธุรกิจคล้ายกันได้แก่ WHA 19.7x, AMATA 19x, ROJNA 8.5x และ NNCL 12.8x

หุ้นมีข่าว

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 16.00 บาท) ประกาศลงทุนครั้งใหญ่ ปิดดีลใหม่ 6 ดีล มูลค่าลงทุนกว่า 1.58 พันล้านบาท ตั้งเป้าเบอร์ 1 ตู้เวนดิ้งภายในสิ้นปี 2565 คาดจำนวนตู้แตะ 1 หมื่นตู้ ผุดสาขาไปรษณีย์เอกชนเกิน 5 พันแห่งสิ้นปีนี้ บอสใหญ่ “ชูเกียรติ รุจนพรพจี” คาดรายได้ปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 50% ฟากโบรกชี้ดีลใหม่ดันกำไร เพิ่ม 200-250 ล้านบาท ดันอัพไซด์พุ่ง 70-80% (ที่มา ทัน หุ้น)

(+) TM (Bloomberg Consensus – บาท) ยอดขายกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง และชุดตรวจโควิด ATK หนุนงบ 9 เดือน พุ่ง 77.8 % ฟาก “สุนทรี จรรโลงบุตร” ย้ำเป้ารายได้ทั้งปีที่ 700 ล้านบาท ชี้โค้งท้ายยอดขายเข้าสู่ภาวะปกติ สินค้ากลุ่มเครื่องมือผ่าตัดฟื้น ใส่เกียร์ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) KEX (Bloomberg Consensus 45.00 บาท) “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” จับมือ “เบทาโกร” เปิดตัว “KERRY COOL” แพลตฟอร์มขนส่งด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยรายแรกในไทย ทุ่ม 1,000 ล้านบาท รุกบริการทั่วไทย คาด 3-5 ปี ข้ึนเบอร์หนึ่งของตลาด และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SMT (Bloomberg Consensus 8.00 บาท) กางแผนปี 65 วางเป้ารายได้ 3,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปี 64 ที่คาดรายได้ลดลง 5-7% จากเป้าทั้งปี 2,593 ล้านบาท เหตุเจอโควิด-19 กระทบแรงช่วงไตรมาส 3 แต่มั่นใจไตรมาส 4 ฟื้นตัวทำรายได้สูงสุดของปี พร้อมเร่งปิดดีลูกค้ารายใหญ่ไม่ต่ำ 2 ราย มั่นใจได้ยอดขายเพิ่มอีก 1,000-2,000 ล้านบาท (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 10 พ.ย.ประชุม กนง.ครั้งที่ 7/2564
  • สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท.ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • 15-16 พ.ย.ประชุมครม.สัญจร จ.กระบี่
  • 15 พ.ย. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP 3Q64 กำหนดวันสุดท้ายส่งงบ 3Q64
  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นาเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 9 พ.ย. อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน พ.ย.จากสถาบัน ZEW

สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

  • 10 พ.ย. จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.

สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. สต๊อกสินค้าคงคลังภาคการค้าส่งเดือนก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA

  • 12 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.
  • 15 พ.ย.จีนรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.

สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟด นิวยอร์ก

- Advertisement -