วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,306 / 1,300 แนวต้าน 1,315 / 1,325

คาดตลาดจะให้ความสนใจไปที่การประชุม FOMC ของ FED และรอฟังผลในเช้าวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้เรารายังคงมุมมองว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงที่ FED จะยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ อีกทั้งเรามองตลาดรับรู้ข่าวไป ค่อนข้างมากแล้ว อย่างไรก้ตามเรายังให้น้ำหนักไปที่การประกาศผลประกอบการ 2Q’67 ของแต่ละ บจ. ในตลาดส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง

Our View? “แกว่งต่อไป!”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,306 / 1,300 และแนวต้านที่บริเวณ 1,315 / 1,325 คาดวันนี้ตลาดจะให้ความสนใจไปกับการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งจะรู้ผลในช่วงเช้าวันที่ 1 ส.ค. นี้ เรายังคงมุมมองว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงที่ FED จะยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ตามที่ตลาดคาดหวัง แต่จะส่งสัญญาณเป็นโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งอาจเห็นแรง Sell on Fact สินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นได้บ้าง หลังตลาดในช่วงที่ผ่านมารับรู้ประเด็นดังกล่าวไป ค่อนข้างมากแล้ว โดย CME FED Watch Tools เริ่มปรับลดน้ำหนักโอกาสที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ที่ระดับ 88.0%+/- หลังก่อนหน้าคาดการณ์สูงขึ้น 95.0%+/- คาดยังจำกัด Upside ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ อีกทั้งเรายังมองตลาดในช่วงนี้คาดจะให้ความสำคัญกับการประกาศผลประกอบการ 2Q’67 ของแต่ละ บจ. ในตลาด อาทิ Meta Platforms (META), Apple (AAPL) และ Amazon (AMZN) ในสัปดาห์นี้คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง ปิดที่ระดับ 74.73 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.08 ดอลลาร์ (-1.42%) คาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางตะวันออกกลางผ่อนคลายลง รวมทั้งตลาดยังกังวลกับความไม่แน่นอนของอุปสงค์น้ำมันดิบของจีน อย่างไรก็ตามเราคาดราคาน้ำมันปรับตัวลงรับรู้ประเด็นดังกล่าวบ้างในระดับหนึ่งแล้ว คาดอาจเกิด Technical rebound ในระยะสั้นได้บ้างหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวในระยะสั้น

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเรายังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดีของตลาดหุ้นไทย ขณะที่เรายังคงมุมมองประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะการลงมติวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค. และการนัดฟังคำวินิจฉัยคดีคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค. คาดจะนักลงทุนในตลาดบางส่วนอาจลดน้ำหนักการลงทุนในระยะสั้นออกไปก่อนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว มองเป็นปัจจัย Overhang กดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ขณะที่หากพิจารณาจากคาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยปี 67 โดย Bloomberg Consensus คาดล่าสุดอยู่ที่ระดับ 92.4 อ่อนตัวลงต่อเนื่อง คาดยังเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัดทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ทำให้เรายังคงมุมมองกลยุทธ์การเลือกเล่นหุ้นรายตัวยังมีความได้เปรียบอยู่สำหรับตลาดหุ้นไทย

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “KTB”

  • เรายังชอบ KTB จากการรายงานกำไร 2Q’67 ที่ 11,195 ลบ. (EPS 0.80) เติบโต 1%QoQ และ 10% YoY มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4% จาก Cost to Income ปรับตัวลงสู่ระดับ 41.7% จากรายการขาดทุนจากการด้อยค่าลดลง ขณะที่ NIM ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.37% จากการเพิ่มขึ้นสินเชื่อรายย่อย ขณะที่ 2H67 คาดจะมีโอกาสทำได้ดีกว่าที่เราคาดไว้จาก (1) NIM อาจจะสามารถรักษาระดับเดียวกับช่วง 1H67 จาก KTB หันมาเน้นสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น และสินเชื่อภาครัฐจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
  • ทางเทคนิค ราคายังฟื้นตัวขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ RSI ให้สัญญาณซื้อ แต่ SSTO อยู่ในภาวะ Overbought ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางบวก
  • แนะนำ “ย่อซื้อ”
  • แนวรับ 17.80 / 17.50 Target 18.60 / 19.00 Stop <17.20 

- Advertisement -