KS Daily View 31.07.2024 >>> คืนนี้จับตา FOMC คาด Fed คงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.50% คาดดัชนีวันนี้ซื้อขายในกรอบ 1,290 – 1,310 จุด แนะนำ AMATA, PTTEP

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้แกว่งตัวในกรอบ คาดซื้อขายในช่วง 1,290-1,310 จุด มองนักลงทุนรอพิจารณาผลการประชุม FOMC ช่วงข้ามคืนนี้ โดยคาด Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50% อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามคำแถลงการณ์ของประธาน Fed นาย Jerome Powell เชื่ออาจมีการส่งสัญญาณเพื่อที่จะเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในระยะอันใกล้ โดยอาจระบุเห็นอัตราเงินเฟ้อล่าสุดปรับลงชัด ส่งผลให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับเข้าสู่เป้าหมายนโยบายที่ 2% ในส่วนของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เรามองปีนี้มีโอกาสปรับลดลง 2 ครั้งคือในช่วงเดือน ก.ย. และ ธ.ค. ทั้งนี้หากเป็นไปตามที่เราคาดแล้ว เชื่อจะกดดันให้ US bond yield ปรับตัวลดลง และค่าเงิน USD อ่อนค่า รวมถึงกระตุ้นให้เกิด fund flows ไหลมาที่กลุ่ม EM โดยเฉพาะในกลุ่ม value play ซึ่งทำให้บรรยากาศ sentiment การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจะพลิกกลับมาเป็นบวก อย่างไรก็ดี หากอยากเห็นหุ้นไทยฟื้นตัวได้ยาวๆอาจต้องรอพิจารณาประเด็นการเมืองในประเทศในช่วงต้นเดือน ส.ค. อีกครั้ง ถ้าสามารถหลุดจากประเด็นกดดันเรื่องการเมืองไทย เชื่อหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวชัดกว่าตลาดโลกและภูมิภาคได้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งมีมาตรการสนับสนุนทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเม็ดเงินเข้าลงทุนใหม่ในตลาดหลังปรับเกณฑ์การลงทุนในกองทุน TESG เพื่อการลดหย่อนภาษี

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.ครม.วานนี้ได้อนุมัติมาตรการเศรษฐกิจหลายประการ รวมถึงเกณฑ์ใหม่สำหรับกองทุน Thai ESG โดยลดระยะเวลาการถือครองจาก 8 ปี เหลือ 5 ปี และขยายวงเงินซื้อกองทุนสูงสุดจาก 100,000 บาท เป็น 300,000 บาท นอกจากนี้ ยังอนุมัติสินเชื่อ SME Green Productivity วงเงิน 15,000 ล้านบาท มองเป็นบวกกับตลาดหุ้นไทยโดยรวมหนุนจากเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้าลงทุนในช่วงปลายปี

2.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี 2024 ถึงวันที่ 28 ก.ค. 2024 มีทั้งสิ้น 20.34 ล้านคนเติบโตขึ้น 34% YoY ทำรายได้ประมาณ 957,319 ล้านบาท อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 ประเทศคือ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย นักท่องเที่ยวจีนครองอันดับหนึ่ง โดยมีจำนวนกว่า 4 ล้านคน ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวมีการเติบโตขึ้น 1.04% WoW ได้แรงหนุนจาก school and summer holiday และ เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของตะวันออกกลาง มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว, สายการบิน, และโรงพยาบาลอย่าง BH

3.นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้าร่วมศึกษาความเหมาะสมของโครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ในลักษณะ Mixed-Use เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ย้ายท่าเรือกรุงเทพแต่เพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวสูง รวมถึงพัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งและท่องเที่ยว รองรับการใช้งานที่หลากหลายและสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้พยายามผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน โดยให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนแก่เอกชนอย่างเต็มที่ ร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ซึ่งคาดจะถูกเสนอเข้าสภาภายในเดือนกันยายน 2567 โดยมีเป้าหมายเชิญชวนนักลงทุนและเปิดประมูลโครงการภายในปี 2568 เพื่อเริ่มก่อสร้างในปี 2569 โครงการมีมูลค่าลงทุนประมาณ 1 ล้านล้านบาท รวมถึงการสร้างท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อภายในประเทศ มองเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม และอสังหาฯ

4.บริษัท Zhejiang Akcome Photoelectric Technology ของจีนประกาศล้มละลาย เนื่องจากปัญหาโอเวอร์ซัพพลายและการแข่งขันราคาที่รุนแรงในอุตสาหกรรมแผงโซลาร์ของจีน บริษัทได้รับคำสั่งศาลให้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างกิจการหลังไม่สามารถชำระหนี้ได้ บริษัทแม่ Zhejiang Akcome New Energy Technology ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซินเจิ้นมาตั้งแต่ปี 2011 เริ่มรายงานการขาดทุนตั้งแต่ปี 2019 และล่าสุดหยุดการผลิตโมดูลและแผงโซลาร์ในบริษัทลูก 4 แห่ง

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

AMATA: ราคาพื้นฐานที่ 29.5 บาท

บริษัทรายงานยอดขายที่ดินแข็งแกร่งในไตรมาส 2/67 โดยขายได้ถึง 736 ไร่ เติบโตแรง 127% QoQ และ 98% YoY หลังมีอุปสงค์จากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนยอดขายที่ดิน ส่งผลให้รวมยอดขายที่ดินครึ่งแรกปีนี้ขยายตัวกว่า 56% แล้ว ด้วยยอดขายที่เติบโตแรง ดูแนวโน้มมีโอกาสที่เป้ายอดขายที่ 1,850 ไร่ จบปีอาจทะลุเป้า มองเป้น sentiment บวกต่อผลประกอบการบริษัทและราคาหุ้น

PTTEP: ราคาพื้นฐาน 174.0 บาท

บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67 ที่ 23.9 พันลบ. ปรับเพิ่มขึ้น 28% QoQ และ 14% YoY โดยผลประกอบการที่รายงานออกมาดีกว่าที่เราคาด 11% ส่งผลให้ครึ่งแรกของปีบริษัททำกำไรได้แล้ว 42.7 พันลบ. หรือคิดเป็น 55% ของประมานกำไรทั้งปีของที่เราคาด มองหุ้นมีความน่าสนใจด้วยรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งเติบโตได้ดีทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.5 บาท/หุ้น คิดเป็นกว่าอัตราปันผลที่ 3.2%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (NBS PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.3 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.5 จุด ต่อด้วยรายงานตัวเลขส่งออกจาก BoT ของไทยเดือน ก.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +7.8% YoY และตัวเลขนำเข้าเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -2.3% YoY ในส่วนของญี่ปุ่นติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ตลาดคาดการณ์ในกรอบ 0.00-0.10% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ขณะที่ยุโรปมีเปิดเผยคาดการณ์ CPI เดือน ก.ค. ครั้งแรกที่ 2.5% YoY และปิดท้ายด้วยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยตลาดคาดการณ์ Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 5.25-5.50% ตามเดิม
  • วันพฤหัสฯฯ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. เทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่ 51.8 จุด ต่อด้วย ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 48.5 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.88 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.06 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.1% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- Advertisement -