บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Thai Union Group (TU) กําไร 3Q64 ต่ำกว่าคาด แต่จะฟื้นใน 4Q64

Results Review 

ผลประกอบการ 3Q64 

กำไรสุทธิ 3Q64 เท่ากับ 1,937 ล้านบาท (-17% QoQ และ -6% YoY) หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายได้ประกันภัยเพลิงไหม้โรงงาน กำไรปกติเท่ากับ 1,544 ล้านบาท (-31% QoQ, -29% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาด 15% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 2% YoY เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่า หากไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนยอดขายในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯลดลง 3% YoY เนื่องจากปริมาณขายอาหารทะเลแปรรูปลดลงจากฐานสูงในปีก่อนที่มีการตุนสินค้า ขณะที่ปริมาณขายอาหารสัตว์เลี้ยงลดลงจากการปิดโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงชั่วคราวจากการระบาดของโควิด อย่างไรก็ดี ปริมาณขายสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งเพิ่มขึ้นจากการที่ธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐฯฟื้นตัวหลังจากการเปิดเมือง อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากการปิดโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงชั่วคราว สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายเพิ่มเป็น 12.7% จาก 12.4% ใน 3Q63 เนื่องจากค่าขนส่งเพิ่มขึ้น แต่ TU ยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และลดการจัดกิจกรรมการตลาด ส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมลดลง เนื่องจากบริษัท Avanti ในอินเดียได้รับผลกระทบจากโควิด และการเรียกคืนสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ขณะที่ Red Lobster ขาดทุน 63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากขาดทุน 54 ล้านบาทใน 3Q63 

แนวโน้มผลประกอบการ

กำไร 4Q64 มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวทั้ง QoQ, YoY เนื่องจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัวหลังจากโรงงานได้กลับมาผลิตตามปกติแล้ว ซึ่งจะทำให้ยอดขายและอัตรากำไรของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มกลับขึ้นมา ส่วน Red Lobster คาดว่าจะขาดทุนลดลง YoY จากการที่ร้านกลับมาเปิดทั้งหมดแล้ว และจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นการขายหุ้น TFM (IPO) ทำให้ได้รับกระแสเงินสด 1.48 พันล้านบาท และมีกำไรจากการขายหุ้น 200 ล้านบาท (บันทึกในบัญชีส่วนของผู้ถือหุ้นโดยไม่บันทึกในงบกำไรขาดทุน) 

คำแนะนำการลงทุน

กำไรปกติ 9M64 คิดเป็น 76% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ เราจึงยังคงประมาณการเดิม หุ้นซื้อขายที่ PE 13.3 เท่า ซึ่งเป็นระดับ -1 SD ของ average PE และยังมีอัพไซด์ 20% เทียบกับราคาเป้าหมายที่ 24.60 บาท (PE 16 เท่า) เรายังคงคำแนะนำ Trading Buy

ความเสี่ยง

ราคาปลาทูน่าผันผวน เงินบาทแข็งค่าอย่างมีนัยยะ ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น

- Advertisement -