คาดหวังพลังลดดอก+เงินดิจิทัล / 1,315-1,330

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ยังแรงไม่ตก: หลังมองน้ำหนักของปัจจัยบวกเริ่มทยอยเพิ่มขึ้น โดยวันนี้มีแรงหนุนต่อเนื่องจาก 1) ที่ประชุม FOMC ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.5% โดยประธานเฟดมีความเห็นว่า “เศรษฐกิจกำลังขยับเข้าใกล้จุดที่เหมาะสมต่อการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเราแล้ว” ด้าน Fedwatch tool ปรับเพิ่มความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 67 จาก 86% ในวันก่อนหน้าสู่ 89% และยังคงมองจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% Dollar Index อ่อนค่าแตะระดับ 104 จุด หนุนทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ เป็นบวกต่อหุ้นที่รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าในกลุ่มโรงไฟฟ้า สายการบิน และหุ้นที่มีสัดส่วนนำเข้าสูง 2) เข้าสู่วันแรกของการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 8.00 น. ลงทะเบียนได้ 24 ชม. มองจะหนุน Sentiment เชิงบวกให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีก 3) ราคาน้ำมันดิบ WTI เดินหน้าปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำท่ามกลางแรงหนุนของประเด็นการลอบสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสที่บ้านพักกรุงเตหะราน จากการโจมตีของอิสราเอล และสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์จาก EIA ออกมาที่ -3.436 ล้านบาร์เรล ติดลบมากกว่าที่ตลาดคาดที่ -1.6 ล้านบาร์เรล รวมถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ 4) คาดแรงหนุนในหุ้น TESG ยังคงมีต่อหลังเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้น Big Cap ด้านปัจจัยลบมาจากการคาดการณ์ของธปท.โดยมองภาคการผลิตและส่งออกของไทยยังฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมบางประเภทที่ยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง และสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง พร้อมมองธุรกิจยานยนต์ยังน่าเป็นห่วงหลังธ.พาณิชย์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ช่วงเย็น/คืนนี้ ติดตามการประชุม BOE การประชุม OPEC+ และ PMI สหรัฐ เดือน ก.ค.
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) TESG: ADVANC, BDMS, INTUCH, GULF, KBANK, SCB 2) หวังดอกเบี้ยโลกขาลง: DELTA, KCE 3) เก็งงบ 2Q67: BTG, ITC, OSP, PRM และ 4) Spending : CPN, CPALL, CPAXT, MOSHI, CPF 5) บาทแข็ง: AAV, COM7, SYNEX

ปัจจัยบวก

  • เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของจีน ระบุจีนจะดำเนินนโยบายการคลังอย่างเข้มข้น เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษมูลค่า 3.9 ล้านล้านหยวน โดยปีนี้จะออกขายมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน
  • สภาผู้แทนฯ ลงมติวาระ 3 ด้วยคะแนน 291 เสียง ต่อ 161 เสียง เห็นชอบร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนลบ. เพื่อโครงการเงินดิจิทัล
  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับมือ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex) จัดงาน TILOG -LOGISTIX 2024 วันที่ 15 – 17 ส.ค. 67 เพื่อเชื่อมโยงกการค้าระหว่างประเทศ
  • แบงก์ชาติ จ่อออกเกณฑ์เพิ่มความยึดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยนและผลักดัน FX Ecosystem สร้าง New FX Ecosystem เฟส 3 ใน Q4/67
  • ธปท. อยู่ระหว่างการทบทวนและหารือลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต ที่ปัจจุบันต้องจ่ายอัตรา 8% สู่ระดับ 5% คาดได้ข้อสรุปสิงหาคมนี้

ปัจจัยลบ

  • รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่ารัฐบาลของปธน.ไบเดนเตรียมประกาศกฎใหม่ในเดือนหน้า เพื่อเพิ่มอำนาจสหรัฐในการสกัดกั้นการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปจากบางประเทศไปยังบริษัทผลิตชิปของจีน
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เผยดัชนีอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 96.08 ลดลง 1.71% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.66 ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนี MPI เฉลี่ยลดลง 2.01%
  • สศก.เผยปรากฏการณ์เอลนีโญยังส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจการเกษตรของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2Q67 หดตัว 1.55% y-y
  • แบงก์ชาติมองเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าตามคาด จากการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า ๆ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องโครงสร้าง และหวังว่าในครึ่งหลังของปีโดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 การส่งออกสินค้าในตลาดโลกจะกลับมาฟื้นตัวขึ้น

PICKS OF THE DAY

AAV BUY
  • เป้าหมาย 2.40 / 2.50 แนวรับ 2.20
  • 2Q67 คาดกำไรปกติและกำไรสุทธิโต y-y: 2Q67 ผู้โดยสาร +7% y-y ที่ 4.97 ล้านคน ค่าตั๋ว/คนคาด +14% ที่ 2,000 บาท หนุนรายได้โต 18.9% คาดกำไรปกติ +14.1% ที่ 432 ลบ. แม้เงินบาทอ่อนค่าจะมีขาดทุน Fx แต่ลดลงมีนัยสำคัญ y-y คาดกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 63 ลบ. ดีขึ้นจาก 2Q66 ขาดทุน 1,013 ลบ.
  • 2H67 คาดผู้โดยสารดีกว่า 1H67: ผู้โดย สารใน 2Q67 จะต่ำสุด ทำให้ 2H67 ผู้โดย สารจะดีกว่า 1H67 จาก market share ในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 40% อีกทั้งยังมีการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบินทั้งในและ ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีน อินเดียที่ได้ seat quota เพิ่ม และอาเซียน ซึ่งจะมีการรับเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 3 ลำใน 2H67 เป็น 60 ลำ รองรับ high season ในช่วง 4Q67 อีกทั้งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จะเห็นกำไร Fx กลับมาชดเชยใน 1H67 ที่มีขาดทุน

CPALL BUY

  • เป้าหมาย 60.00 / 61.00 แนวรับ 57.50
  • คาด Fed ลดดอกเบี้ย: นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ Fed อาจลดดอกเบี้ย 25 bps ในเดือนกันยายนนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของ US ที่ฟื้นตัวดี ทำให้เพิ่มความเป็นไปได้ที่ BoT จะลดดอกเบี้ยตาม Fed ซึ่งจะเป็นผลดีกับ CPALL ที่มีโครงสร้างเงินทุนที่ประกอบด้วยหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจำนวนมาก (D/E 2.0 เท่า) คาดว่าช่วยลดต้นทุนทางการเงินได้ทั้งดอกเบี้ยเงินกู้และหุ้นกูที่จะมีการ Rollover
  • จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น: ในเดือนมิถุนายนนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 2.74 ล้านคน มากกว่าเดือนที่แล้ว 4.1% และมากกว่าเดือนมิถุนายนของปีที่แล้วถึง 22.2% คาดว่าจะมี Transaction เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ของ CPALL ใน 2Q67 มีโอกาสเติบโต ช่วยพยุง SSSG ของ 7-11 ได้
- Advertisement -