ผู้ถือหุ้น B52 ยกมือสนับสนุนแผนปรับโครงสร้างทุน ทั้งการรวบพาร์ ลดทุน ล้างขาดทุนสะสมเกือบหมด ปูทางสู่การปลดล็อกครื่องหมาย C เพื่อลุยธุรกิจใหม่แบบไม่ต้องกังวล ตามแผนปั้นเป็น New S Curve ร่วมกับพันธมิตร หนุนธุรกิจให้กลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ย้ำการลดทุนโดยการลดพาร์ไม่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของส่วนของผู้ถือหุ้น ระบุเป็นการปรับปรุงตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น

 

นางสาวนราวดี วรวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน จำนวน 8,297,905 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท ตามงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 จำนวน 888,508,872 บาท ซึ่งภายหลังการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 8,297,905 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทแล้ว จะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสะสมตามงบแสดงฐานะทางการเงินเฉพาะกิจการ เหลือจำนวน 880,210,967 บาท

นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัท โดยการรวมมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมที่มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2.00 บาท ซึ่งส่งผลให้จำนวนหุ้นของบริษัทลดลงจำนวน 2,404,798,095 หุ้น จากเดิม 3,206,397,460 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นจำนวน 801,599,365 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2.00 บาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทดังกล่าว จะเป็นผลให้จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ลดลงในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่

ขณะเดียวกัน ยังอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 1,202,399,047.50 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 1,603,198,730 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 400,799,682.50 บาท และลดทุนจดทะเบียนชำระแล้วลงจำนวน 983,171,260 บาท จากทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 1,310,895,013.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 327,723,753 บาท ตามลำดับ โดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2.00 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (จำนวนหุ้นคงเดิมเท่ากับ 655,447,506 หุ้น) เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทที่คงเหลืออยู่จำนวน 880,210,967 บาท และส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่ปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทสำหรับงวดไตรมาสที่ 2/64 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ปรากฏมีส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นจำนวน 170,989,992 บาท

ทั้งนี้ การลดทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วตามที่กล่าวข้างต้น จะทำให้เกิดส่วนเกินทุนจากการลดทุน (ทุนสำรองอื่น) จำนวน 983,171,260 บาท เพื่อบริษัทสามารถนำส่วนเกินทุนจากการลดทุนดังกล่าว มาชดเชยผลขาดทุนสะสมที่เหลืออยู่จำนวน 880,210,967 บาท และส่วนต่ำมูลค่าหุ้น จำนวน 170,989,992 บาทได้ ตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ได้

“การลดทุนโดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อมูลค่าของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด การลดทุนดังกล่าวเป็นการปรับปรุงตัวเลขทางบัญชีเพื่อการชดเชยผลขาดทุนสะสมทางบัญชีเท่านั้น การจดทะเบียนลดทุนและทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท โดยการลดพาร์ จาก 2.00 บาท เป็น 0.50 บาท จะเกิดขึ้นภายหลังการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และจำนวนหุ้นของบริษัท โดยการรวมพาร์ จาก 0.50 บาท เป็น 2.00 บาท กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว” นางสาวนราวดี กล่าว

สำหรับแผนการปรับโครงสร้างทุน เพื่อนำเงินส่วนเกินทุนจากการลดทุนมาล้างขาดทุนสะสมในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขกรณีที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย C เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว เมื่อปรับปรุงตัวเลขทางบัญชีครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว มีโอกาสที่ B52 จะได้รับการอนุมัติให้ซื้อขายตามปกติในอนาคตอันใกล้ และถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพื่อสร้าง New S Curve ร่วมกับพันธมิตร เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต

**************************************

- Advertisement -