STA โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 รับอานิสงส์ธุรกิจยางธรรมชาติเติบโต จากราคายางธรรมชาติที่โดดเด่น หนุนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,230.8 ล้านบาท โต 55.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 28,486.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจผลงานไตรมาสสุดท้ายโดดเด่น หลังผู้ผลิตยางล้อชั้นนำหันมาสั่งซื้อยางจากไทยเพิ่มขึ้น ประกาศทุ่มงบราว 2,600 ล้านบาทรุกขยายกำลังการผลิต พร้อมเผยความคืบหน้าได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย.แล้ว คาดเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในเดือนมีนาคม 2565 ด้านที่ประชุมบอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น

 

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 3,230.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 28,486.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อยู่ในช่วงวัฏจักรของการเติบโตรอบใหม่ โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจยางธรรมชาติในไตรมาส 3 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 13.6% หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมของทุกสายธุรกิจอยู่ที่ 36.3%

จากผลการดำเนินงานที่เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยมาจากราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น โดยสูงกว่าราคาในตลาดซื้อขายยางล่วงหน้าของประเทศสิงคโปร์ (SICOM) ประกอบกับได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ส่งผลให้มีดีมานด์ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการผลิตยางล้อป้อนให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของบริษัท ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยาง แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2564  ซึ่งเมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น และไตรมาส 2/64 ในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้บริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2564 ในอัตรารวม 3.50 บาทต่อหุ้น

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว (ไฮซีซั่น) ของผลผลิตยางธรรมชาติ และได้รับปัจจัยบวกจากการผู้ผลิตยางล้อชั้นนำของโลกได้หันมาสั่งซื้อยางธรรมชาติจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น จากในอดีตที่สั่งซื้อจากอินโดนีเซีย โดยจะเลือกซื้อจากบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วเท่านั้น ซึ่งโรงงานของ STA เป็นหนึ่งในผู้ผลิตในประเทศไทยที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว

นอกจากนี้ ความต้องการใช้ยางธรรมชาติทั่วโลกที่ยังอยู่ในช่วงวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ การทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและการเติบโตของเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปและอเมริกา รวมถึงราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัวอยู่ในระดับสูง  จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันปริมาณการขายยางธรรมชาติในปีนี้ได้ตามเป้าหมายใหม่ 1.3 ล้านตัน

ด้านแผนการดำเนินงาน ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,600 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต ประกอบด้วย การขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (TSR) เพิ่มขึ้นอีก 2.9 แสนตันต่อปี ที่โรงงานบึงกาฬ สกลนคร พิษณุโลก และตรัง ใช้งบลงทุนทั้งหมด 1,655 ล้านบาท จะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2565 และขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้น (Concentrated Latex Plants) อีก 1.8 แสนตันต่อปี ที่โรงงานบึงกาฬ นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ใช้งบลงทุนทั้งหมด 950 ล้านบาท จะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2565

นอกจากนี้ บริษัทได้รุกเข้าสู่ธุรกิจด้านการเพาะปลูกกัญชง ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ หลังจากได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อย โดยนำองค์ความรู้และทรัพยากรของบริษัท เช่น ที่ดินเพื่อการเพาะปลูก มาใช้ต่อยอดขยายธุรกิจดังกล่าว ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ โดยจะปลูกกัญชงบนที่ดินของบริษัท ในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อการจำหน่ายเมล็ด ใบ และรากกัญชงทั้งหมดที่มาจากการปลูกแก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อหรือตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก คาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในเดือนมีนาคม 2565

******************

- Advertisement -