บล.ไอร่า:
TOP Thai Oil PCL. ผลการดำเนินงานอ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่คาดฟื้นตัวได้ในช่วง 4Q/64
  • TOP ประกาศผลการดำเนินงาน 3Q/64 มีกำไรสุทธิ 2,063 ล้านบาท ลดลง 2.8% qoq แต่เพิ่มขึ้น 188% yoy แย่กว่าคาด ปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นที่แย่กว่าคาด โดยค่าการกลั่นในช่วง 3Q/64 อยู่ที่เพียง 1.6 USD/bbl เพิ่มขึ้นจาก 0.4 USD/bbl ในช่วง 2Q/64 ในขณะที่ล่าสุดค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 7-8 USD/bbl สูงสุดในรอบ 2 ปี จากปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินที่มีค่าการกลั่นฟื้นตัวดีอยู่ที่ 18 USD/bbl (TOP มีสัดส่วนผลิตน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 19% ของการกลั่นทั้งหมด) และคาดค่าการกลั่นของน้ำมันดีเซลและอากาศยานจะเร่งตัวขึ้นในช่วง 4Q/64 จากการเข้าสู่ฤดูหนาว และการผ่อนคลายมาตรการ lockdown โดยค่าการกลั่นของน้ำมันเครื่องบินก็คาดจะฟื้นตัวเช่นกัน ปัจจุบันอยู่ที่ 11-13 USD/bbl
  • ช่วง 3Q/64 ยังคงมีกำไรจากสต็อกน้ำมันจำนวน 3,635 ล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงเดือน ก.ย. 2564 อยู่ที่ 71 USD/bbl เพิ่มขึ้น 2 USD/bbl จากช่วงเดือน มิ.ย. 2564 และยังได้รับผลบวกจาก crude premium ที่ลดลงในช่วง 3Q/64 ส่วนอัตราการใช้กำลังผลิตลดลงมาอยู่ที่ 92% ในช่วง 3Q/64 เนื่องจากเป็นช่วง low season
  • ธุรกิจปิโตรเคมียังคงมีกำไรต่อเนื่องในช่วง 3Q/64 แต่ GIM ลดลงเล็กน้อยเป็น 2.1 USD/bbl จาก 2.4 USD/bbl ในช่วง 2Q/64 ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น GIM ลดลงเป็น 1.8 USD/bbl จาก 2.4 USD/bbl ในช่วง 2Q/64
  • นอกจากนี้ยังมีขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน 1,908 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,228 ล้านบาท
  • กลยุทธ์ของ TOP ในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดสัดส่วนกำไร 80% ยังคงมาจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยจะเห็นการเติบโตชัดเจน หลังจากโครงการขยายกำลังการผลิต (CFP) แล้วเสร็จในปี 2567 และการลงทุนใน Chandra Asri ซึ่งเป็นโรงงานปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ในอินโดนีเซีย คาดจะสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานได้ตั้งแต่ 4Q/64 เป็นต้นไป
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี ’65 = 72.00 บาท (P/E = 13 เท่า) แนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -