วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”
แนวรับ 1,270 / 1,260 แนวต้าน 1,282 / 1,288
แม้คาดว่าในช่วงสั้นจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศอาจเบาบางลงไปบ้างตาม US-Bond Yield และค่าเงินเยนเริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม เรายังมองตลาดยังอยู่ในขั้นตอนของการปรับพอร์ทครั้งใหญ่ คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนได้ในระยะถัดไป ขณะที่วันนี้เราคาดตลาดจะได้รับ Noise จากปัจจัยทางการเมืองในการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลเข้ากดดันตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
Our View? “ยังไว้ใจไม่ได้”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,270 / 1,260 และแนวต้านที่บริเวณ 1,282 / 1,288 แม้เรามองว่าแรงขายของสินทรัพย์เสี่ยงอาจเบาบางลงบ้างหลังปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมาขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ US-Bond Yield เริ่มพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างในช่วงสั้นเช้านีรุ่นอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 3.90%+/- เช่นเดียวกับค่าเงินเยนที่เริ่มชะลอการแข็งค่าลงบ้างแล้ว เช้านี้ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 145.80+/- เยน/ดอลลาร์สหรัฐ พยายามดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 141.7+/- เยน/ดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งใช้วัดความผันผวนของตลาดเช้านี้เริ่มอ่อนตัวลงบ้างแล้วอยู่ที่ระดับ….สะท้อนตลาดอาจเริ่มผันผวนน้อยลงบ้างช่วยจำกัด Downside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองตลาดยังมีโอกาสเผชิญความผันผวนตามสัญญาณการปรับพอร์ทของตลาดครั้งใหญ่ของตลาด โดยเราเห็นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ จาก 1.) ความกังวลทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาอ่อนแอ เช่นเดียวกับตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐลดความร้อนแรงลง โดยหากพิจารณาตาม Sahm’s Rule ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐเดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 4.3% ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ย้อนหลัง 3 เดือน ปรับตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา 0.5% แล้วสะท้อนถึงโอกาสในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้เรามองว่ากฎดังกล่าวอาจไม่สามารถพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ชัดเจน แต่เรามองเรามองเป็นปัจจัยกระตุ้นความกังวลดังกล่าวได้เพิ่มเติม กดดัน-จำกัด Upside ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ 2.) สถานการณ์ปิดสถานะ Japan Carry Trade (Reverse Carry Trade) จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังในช่วงที่ผ่านมาดอกเบี้ยนโยบายของ BOJ อยู่ที่ระดับ 0.00% มาโดยตลอด อีกทั้งทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กำลังจะอยู่ในช่วงปรับตัวลง จากความกังวลทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจชะลอตัวลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้กระตุ้นความหวังในการปรับลดลงเร็วของดอกเบี้ย FED กระตุ้นการกลับด้านของ Japan Carry Trade เพิ่มเติม และส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยน ผันผวนรวมทั้งสร้างความผันผวนให้กับทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อในระยะถัดไป
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ วันนี้เรามองว่าตลาดอาจมี Noise เข้ารบกวนตลาดได้บ้าง จากประเด็นทางการเมืองโดยเฉพาะการลงมติวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค. และการนัดฟังคำวินิจฉัยคดีคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค. คาดจะนักลงทุนในตลาดบางส่วนอาจลดน้ำหนักการลงทุนในระยะสั้นออกไปก่อนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าว มองเป็นปัจจัย Overhang กดดันทิศทางตลาด หุ้นไทยได้ต่อ
ทั้งนี้เรายังให้น้ำหนักไปที่การรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาด ขณะที่หากพิจารณาจาก
คาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยปี 67 โดย Bloomberg Consensus คาดล่าสุดอยู่ที่ระดับ 92.5 อ่อนตัวลง ต่อเนื่องคาดยังเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัดทิศทางตลาดหุ้นไทยได้อยู่
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “GPSC”
- เรายังชอบหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าคาดจะได้รับประโยชน์จากทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของ GPSC ปรับลดลง อีกทั้งการเปิดรับซื้อพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 กำลังการผลิตรวม 3,668 เมกะวัตต์ของคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) คาดจะช่วยเปิด Upside ให้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าได้
- ภาพทางเทคนิค ราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ยืนเหนือ EMA10 และ 25 วัน ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD, RSI และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
- แนะนำ “รอย่อซื้อ”
- แนวรับ 39.00 / 38.00 Target 43.50 / 45.00 Stop <36.50