บล.พาย:
HMPRO: Home Product Center PCL.
เน้นการขยาย Hybrid store
เรามองว่าเป้า SSSG ของบริษัทที่ทรงตัว YoY ในปี 2024 ค่อนข้างท้าทายเนื่องจาก SSSG ที่ -4.7% ช่วง 1H24 ขณะที่เดือนก.ค. ยังคง -6% YoY (HomePro ที่ -6%, Mega Home ที่ -7%, และ HomePro Malaysia ที่ +2%) ผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยเฉพาะในเมืองรอง และบางสาขาที่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง แต่อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าจะฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำในช่วง 4Q24 โดยเราคาดกำไรทรงตัว HoH และดีขึ้น YoY ใน 2H24 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 13.00 บาท
ภาพระยะกลางยังเติบโตได้ผ่านโมเดล Hybrid store
- บริษัทตั้งเป้าหมายจะเป็น Home Solution & Living Experience โดยการขาย สินค้าพร้อมบริการติดตั้ง โดยปัจจุบันสินค้าที่ขายราว 30% ของยอดขาย ทั้งหมดเป็นสินค้าที่ต้องติดตั้ง
- การขยายสาขาในอนาคต ยังสามารถขยายในรูปแบบ Hybrid store บนที่ดินของสาขาเดิมของ HomePro หรือ Mega Home อีกราว 10 สาขา และสาขาใหม่ๆจะเปิดเป็นรูปแบบ Hybrid มากขึ้น
- ชะลอแผนการลงทุนที่เวียดนามด้วยเหตุผล 1) หาที่ดินตั้งสาขายาก และค่าเช่าค่อนข้างสูง 2) จากการทดลองตลาดพบว่าการขายสินค้าที่มีระดับราคาสูงขายได้ค่อนข้างน้อย สินค้ากลุ่มของใช้ในบ้านก็ขายได้ค่อนข้างยาก
คาดหวังการฟื้นตัวจากฐานต่ำใน 4Q24
- การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ยังคงติดลบราว 6% ในเดือนก.ค. 2024 ดีขึ้นจาก -7.3% ใน 2Q24 Mega Home -7% ในเดือนก.ค. 2024 ติดลบมากขึ้นจาก -1.3% ใน 2Q24 ส่วน HomePro Malaysia +2%ในเดือนก.ค. 2024 จาก -10.4% ใน 2Q24
- การขยายสาขาในปี 2024 ยังคงใช้งบลงทุนราว 7,000 ล้านบาท โดยช่วง 2H24 แบ่งเป็นปรับสาขาเดิมให้เป็น Hybrid store ช่วง 3Q24 จำนวน 3 สาขา ศรีราชา (เพิ่ม Mega Home) หนองคาย (เพิ่ม HomePro) แม่สอด (เพิ่ม HomePro) และเปิดสาขาใหม่ 2 สาขาในช่วง 4Q24
กำไร 2Q24 ทรงตัว YoY และอ่อนตัวลง QoQ
- รายได้ 2Q24 ที่ 1.78 หมื่นล้านบาท (-2%YoY, -1%QoQ) ผลจากยอดขายกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านที่ลดลงเป็น 1.74 หมื่นล้านบาท (-2%YoY) ผลจากยอดขายสาขาใหม่ที่ชดเชยการลดลงของยอดขายสาขาเดิม และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ลดลงเป็น 458 ล้านบาท (-1%YoY)
- โดยยอดขายช่วง 1H24 แบ่งเป็น HomePro สัดส่วน 78.9%, Mega Home 17.8%, HomePro Malaysia 1.9%, และ Home service 1.4% ตามลำดับ
- SSSG ที่ลดลงมาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ 1) การงดจัดงาน HomePro Fair ที่เชียงใหม่โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการจัดงาน HomePro Super Expo ที่ช่องทางสาขา และออนไลน์แทน 2) โครงการปรับปรุงถนน ในพื้นที่หน้าโฮมโปรสาขาราชพฤกษ์ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขาลดลง และ 3) การเข้าสู่ฤดูฝนที่ไวกว่าปกติ ตั้งแต่กล่างเดือนพ.ค.
- การขยายสาขาชวง 2Q24 : มีการเปิด HomePro สาขาลำพูน บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และ Mega Home สาขาอุดรธานี ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/24 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 130 แห่ง (+7%YoY) แบ่งเป็น Home Pro 90 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 28 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 27.0% ใน 2Q24 ลดลง 5 bps YoY แต่ทรงตัวจาก 1Q24 เนื่องจากสัดส่วนยอดขาย Mega Home ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น แม้ว่า GPM ของ HomePro และ Mega Home จะดีขึ้น YoY
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงเป็น 18.7% ใน 2Q24 จาก 19.0% ใน 2Q23 ผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าหุ้นไม่แพง
มูลค่าพื้นฐาน 13.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 3% เทียบเท่า 24xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย (เดิม 13.90 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรในปี 2024-25 ลง 2%-3%