บล.กรุงศรีฯ: 

KSS Strategist Comment: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Update ที่ปรับตัวลงแรงในวันจันทร์ ทำให้เข้าสู่ภาวะ “ตลาดหมี”  ทำให้ช่วงบ่ายวันที่ 5 ส.ค. 2024 เราปรับน้ำหนักขึ้นจาก Slightly Underweight เป็น “Neutral”  เพราะอะไร?

Facts : 

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น TOPIX Index ปรับตัวลง -12% ในเดือนส.ค. แรงกดดันหลักจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoJ ทำให้เกิดการกลับสถานะใน JPY Carry trade และขายออกในตลาดหุ้นทั่วโลก ด้านมุมมองต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นช่วงถัดไปของเราเป็นดังนี้

1.การกลับสถานะ Carry Trade น่าจะดำเนินมาได้ราวๆ 50-70% ประเมินจากสถานะ Net Short ของ Asset Manager และ Leverage money ในรายงาน COT report ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเราแนะนำติดตามรายงาน COT Report อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ว่าสถานะ Net Short ของกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้ลดลงหรือกลับสถานะเป็นฝั่ง Long หรือไม่

2.ภาพของความผันผวนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่สูงขึ้น ทำให้กองทุนประเภท Volatility fund จำเป็นต้องลดสถานะออกอย่างต่อเนื่อง 

3.การแข็งค่าของค่าเงินเยนที่เร่งเกินไป ไม่จูงใจให้นักลงทุนต่างชาติมาเข้าซื้อหุ้นญี่ปุ่นในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงแรง เนื่องจากมีโอกาสขาดทุน FX สูง

4.ด้าน Valuation ถือว่าดัชนี TOPIX ของญี่ปุ่นปรับตัวลงมาอยู่ในจุดที่น่าสนใจ โดยอ่อนตัวลงมา ณ ระดับ PE ล่าสุดที่ 14.6 เท่า อยู่ใกล้กับระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ PE ระดับ 13.6 เท่า ถือว่าใกล้ระดับน่าสนใจเข้าลงทุน

Strategy : จากมุมมองข้างต้นเราจึงปรับน้ำหนัก ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้น 1 ขั้น จากระดับ Slightly underweight เป็น Neutral  แม้ภาวะตลาดปัจจุบันตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความผันผวนสูง และต้องระมัดระวังการเข้าลงทุน แต่ระดับ Valuation ที่ถูกลงวันจันทร์ที่ผ่านมาจากการเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (ติดลบมากกว่า -20% จากจุดสูงสุดของปี) ทำให้มีโอกาสด้านการลงทุน 

โดยเฉพาะ 50 ปีที่ผ่านมา ตลาดญี่ปุ่นเข้าสู่วงจรตลาดหมี 23 ครั้ง พบว่ามี 15 ครั้งที่เกิดในภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้แต่ขยายตัวต่ำ กลยุทธ์การซื้อวันที่เข้าตลาดหมีวันแรกพบว่า ตลาดจะมีเสถียรภาพใน 1 สัปดาห์ +6% และในรอบ 1ปี จะให้ผลตอบแทนต่อเนื่องเฉลี่ย 16-20%

การอ่อนตัวลงมาจะเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนได้ โดยอ้างอิงดัชนี TOPIX Index กรอบการลงทุนประเมินอยู่ในช่วง 2200 – 2300 จุด 

- Advertisement -