บล.พาย: 

BBIK: Bluebik Group PCL

Backlog ทำจุดสูงสุดใหม่ หนุนการเติบโตระยะถัดไป

BBIK มีกำไรงวด 2Q24 ที่ 41 ล้านบาท (-36%YoY, -40%QoQ) หากตัดรายการ One-time ค่าภาษี 4 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรปกติอยู่ที่ 45 ล้านบาท (-37%YoY, -32%QoQ) ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา แม้ว่า อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลงที่ 43.8% จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนของรายได้ของธุรกิจที่อัตรากำไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เราคาดว่ากำไรใน 2H24 ปรับตัวดีขึ้นตาม Backlog ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.4 พันล้านบาท และการส่งมอบงานตามปัจจัยฤดูกาล (2H มากกว่า 1H) สอดคล้องกับทางบริษัทที่คาดว่าอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่สถานการณ์ปกติ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคา 48.5 บาทต่อหุ้น ณ ระดับราคาปัจจุบัน คิดเป็น PE’24 ที่ 19.7x เทียบ กับการเติบโตของกำไรใน 3 ปีข้างหน้า ที่ 22% คิดเป็น PEG 0.91 เท่า

กำไร 2Q24 ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยทางฤดูกาล

  • กำไรสุทธิที่ 41 ล้านบาท (-36%YoY, -40%QoQ) หากตัดรายการ One-time ค่าภาษี 4 ล้านบาท ส่งผลให้ กำไรปกติอยู่ที่ 45 ล้านบาท (-37%YoY, -32%QoQ) ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา
  • อัตรากำไรขึ้นต้นที่ลดลงเหลือ 43.8% จากเฉลี่ยทั้งปีก่อนที่ 50% เนื่องจาก 1) มีการรับรายได้ของบริษัทลูกและ JV ในสัดส่วนที่มากขึ้น (GPM อยู่ที่ประมาณ 40% เทียบกับกำไร GPM ของธุรกิจหลักที่ 50%) 2) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กดดันต้นทุน Subscription fee 3) การ Outsource งานบางส่วน

จุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ได้ผ่านไปแล้ว

  • เรายังคงประมาณการกำไรในปี 2024 ที่ 330 ล้านบาท (+18% YoY) มาจาก 1) การดำเนินการหลัก +9% YoY 2) ส่วนแบ่งกำไรจาก JV +3%YoY 3) สัดส่วนการถือหุ้นของ Innoviz +5%YoY (รายได้ BBIK :
    90% เป็นเอกชน) เราเชื่อว่า BBIK มีความสามารถในการแข่งขันที่จะช่วยหนุนการเติบโต จากประวัติการทำงานและความชำนาญที่มากขึ้น ส่งผลให้กำไรเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 22% มากกว่ามูลค่าของ อุตสาหกรรมที่เติบโต 15-20%
  • Backlog ณ สิ้น 2Q24 มี 1.4 พันล้านบาท (+47%QoQ) แบ่งเป็นบริษัทเครือ 905 ล้านบาท (+29%QoQ) เริ่มได้รับโปรเจ็คใหญ่กลับเข้ามา สะท้อนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเริ่มกลับมา และ JV 472 ล้านบาท (+80%QoQ) สอดคล้องการแข่งขันในอุตสาหกรรม Retail Oil ปรับตัวมากขึ้น หนุนการลงทุนใน Technology เพิ่มเติม
  • บริษัทคาดว่าอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะธุรกิจ พัฒนาโปรแกรม (DX) ยังมีอุปสงค์อยู่ในระดับสูง อีกทั้งบริษัทใน กลุ่ม อุตสาหกรรมการเงิน,ประกันภัย,ค้าปลีก,เทคโนโลยี เริ่มกลับมามีสัญญาณในการทำ Digital Transformation มากขึ้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ที่มูลค่าพื้นฐาน 48.50 บาทต่อหุ้น คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC: 11.9%, TG: 5% เราคาดว่ากำไร BBIK สามารถเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่ 22% ณ ระดับราคาปัจจุบัน คิดเป็น PE’24 ที่ 19.7x เทียบกับการเติบโตของกำไรใน 3 ปีข้างหน้า ที่ 22% คิดเป็น PEG 0.91 เท่า

Sensitivity Analysis

กำไรขั้นต้น +/- 1% ในระยะยาว ส่งผลต่อราคาเป้าหมาย +/- 2 บาทต่อหุ้น

- Advertisement -