ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดกรอบแคบๆ รอปัจจัยเพิ่มเติมจากฝั่งต่างประเทศ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธไซด์เวย์ … หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ผันผวนตลอดทั้งวันก่อนปิดบวกได้ (ตามคาด) ขณะที่แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ยังค่อนข้างดี และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สำหรับในวันนี้ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงเล็กน้อยหลังจากแรลลี่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องหลายวัน แรงกดดันส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลงของหุ้น Tesla ตามข่าว Elon Musk อาจขายหุ้นส่วนหนึ่งออกมาเพื่อนำเงินไปบริหารจัดการภาระการเงินส่วนตัว ผนวกกับตลาดรอดูเงินเฟ้อ CPI เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯในคืนวันนี้ ทั้งนี้ consensus คาดว่า Core CPI จะเพิ่มขึ้น 4.3% YoY เร่งขึ้นจาก 4.0% YoY ในเดือน ก.ย. ขณะที่เมื่อคืนนี้สหรัฐฯรายงาน core PPI (เงินเฟ้อผู้ผลิต) ต.ค. พุ่งขึ้น 6.8% YoY เป็นไปตามที่ consensus คาดการณ์ ด้านปัจจัยภายในประเทศเรามองว่าสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวซึ่งที่ผ่านมาไม่ส่งผลให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ น่าจะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2564 ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 6,978 ราย เสียชีวิต 62 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 7,697 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร MAJOR*, BAFS*, BTS*

  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.9 บาท / แนวต้านแรก 21.4 บาท หากยืนเหนือแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านถัดไป 22 บาท (Stop loss 20.3 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่ม Reopening อย่างกลุ่มโรงแรม (กลุ่มโรงแรมส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปสู่ระดับเท่ากับหรือสูงกว่าก่อนวิกฤตโควิด -19 กันแล้ว ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯ คาด Earnings momentum ของ MAJOR จะทยอยฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ โดยคาด 3Q64 บันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น SF (ลุ้นปันผลพิเศษหลังงบการเงินปี 2564), 4Q64 จะเริ่มพลิกมีกำไรจากการดำเนินงานหลังเริ่มเปิดประเทศ, ปี 2565 คาดพลิกเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 588 ล้านบาท 3) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน PBV ปีนี้ หลังรวมกำไรจากการขาย SF จะอยู่ที่ 2.34 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3.5 เท่า
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 29.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 31.5 บาท (Stop loss 27 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผลการดำเนินงาน 3Q64 ขาดทุน 197 ล้านบาท (เป็นจุดต่ำสุด) แต่คาดจะเริ่มต้นฟื้นตัวใน 4Q64 หลังการเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยประเมินปีหน้า Turnaround เป็นกำไร 123 ล้านบาท และกลับสู่ระดับปกติ +1 พันล้านบาทต่อปีในปี 2565
  • BTS* (เป้าพื้นฐาน 12.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.6 บาท / แนวต้าน 9.8-10.0 บาท (Stop loss 9.45 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจหลัก (รถไฟฟ้า) และบ.ลูก (VGI, KEX) ใน 2Q64/65 (ก.ค. -ก.ย. ) เป็นจุดต่ำสุด และคาดจะฟื้นตัวใน 3Q64 / 65 (ต.ค. -ธ.ค. ) หลังการเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย. 3) คาดผลการดำเนินงานปีหน้ามี Upside จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ (สินเชื่อบุคคล) กับพันธมิตรอย่าง i) กลุ่ม JMART และ ii) AEONT, HUMAN ขณะที่ราคาหุ้น Laggard กลุ่มพันธมิตรโดยเฉพาะกลุ่ม JMART

หุ้นมีข่าว

(+) แหลมฉบัง 3 ลงตัว GULF*-PTT* ร่วมลงทุน 8.7 หมื่นล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ครม. รับทราบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F กับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ปิดดีล 35 ปี มูลค่ารวม 8.7 หมื่นล้านบาท เร่งเซ็นสัมปทานกลุ่ม GPC ลุยขยายประตูการค้าการลงทุนของประเทศ แต่มีข้อเสนอแนะให้ไปดูผลกระทบที่อาจเกี่ยวข้องกับโควิด

(-) แบงก์ปฏิเสธปล่อยกู้บ้าน-คอนโดพุ่ง 70% (มติชน) อสังหาระดับ 2-3 ล้านเจอหนักสุด ซึ่งรัฐต่ออายุลดค่าโอนจดจำนองตลาดอสังหาริมทรัพย์กุมขมับพิษโควิดดันอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มพรวดแตะ 50-70% จาก 30% สมาคมชงรัฐต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% กระตุ้นซื้อไม่เกิน 3 ล้านบาท

(+) WHA เข้าตาต่างชาติรุมกำสัญญารอโอน 500 ไร่ (ทันหุ้น) WHA* เนื้อหอมลูกค้ารายใหญ่จีนญี่ปุ่น-สหรัฐ-ยุโรปรุมจีบซื้อที่ดิน EEC เผยมีสัญญาในมือรอโอนกว่า 400-500 ไร่ และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกหลายร้อยไร่ปีหน้า ยอดขายที่ดินบูมหลังรัฐบาลไทยเปิดประเทศอ้าแขนรับต่างชาติพร้อมคง EBITDA เกิน 40% กูรูสองกลุ่มนิคมขาขึ้นรอบใหญ่ชู WHA*-AMATA* เด่น

(+) SABUY เสียบ ATM แบงก์ ตั้งตู้ตัวเองหน้าเซเว่นฯ (ข่าวหุ้น) “สบาย” ปักธงปี 65 รายได้พุ่ง 50% ชู 4 กลุ่ม “เพย์เมนต์โซลูชั่นส์-ไฟแนนเชียลเซอร์วิสแพลตฟอร์มการขาย” ขับเคลื่อนการเติบโตเตรียมลุยติดตั้งตู้ ATM ตัวเองหน้าเซเว่นฯ เสียบแทนตู้ ATM ของแบงก์ที่มีอยู่เดิม พร้อมวางงบลงทุนปีหน้า 1,500-2,000 ล้านบาท

(-) แพ็กเกจกระตุ้นรถวีป่วนรัฐบาลขาดเงิน “อุดหนุนราคา” จูงใจซื้อ (ประชาชาติธุรกิจ) แพ็กเกจรถป่วน! รัฐบาลไม่มีเงินจัดมาตรการจูงใจซื้อรถแนวทางคล้าย “รถคันแรก” ขณะที่โครงสร้างภาษีไม่สะเด็ดน้ำ ผู้ประกอบการอีโคคาร์ร้องกระทบไลน์การผลิตที่รัฐบาลก่อนส่งเสริมหวั่นค่ายญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิต ลั่นรัฐต้องสร้างสมดุลในอุตสาหกรรมไม่เอื้อรายใดรายหนึ่ง ระยะยาวต้องปรับขึ้นภาษีรถยนต์ยกแผงเพื่อจูงใจผลิต

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • VGI* (เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท) แนวรับ 7.0 บาท / แนวต้าน 7.2 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit”(Trailing stop 6.8 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.6 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.8 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 70 บาท) แนวรับ 65 บาท / แนวต้าน 68 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 64.5 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนวรับ 3.38 บาท / แนวต้าน 3.5-3.6 บาท (Trailing stop 3.34 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) แนวรับ 11.8 บาท / แนวต้าน 12.6-13.1 บาท (Trailing stop 11.5 บาท)
  • BANPU* (เป้าพื้นฐาน 13 บาท) แนวรับ 10.9 บาท / แนวต้าน 11.3-12.0 บาท (Stop loss 10.5 บาท)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน “Under review”) แนวรับ 131 บาท / แนวต้าน 135 138 บาท (Stop loss 126 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 15.4 บาท) แนวรับ 11.7 บาท / แนวต้าน 12.0-12.4 บาท (Stop loss 11.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 127 บาท / แนวต้าน 130-134 บาท (Stop loss 124 บาท)
  • PSH* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 13.4 บาท / แนวต้าน 14.0 บาท (Stop loss 13.1 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 62.5 บาท) แนวรับ 54.5 บาท / แนวต้าน 56.5-58 บาท (Stop loss 53.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • MTC* แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 61 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 1.2 พันล้านบาท (-8% QoQ -10% YoY) ต่ำคาด -9% ฝ่ายวิจัยฯ ปรับคำแนะนำลงเป็น “ขาย” (เดิม “ถือ”) โดยประเมิน DE ratio ที่สูง> 3 เท่าจํากัดศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อใหม่ในขณะที่ Credit cost มีโอกาสปรับขึ้นเมื่อเกิด NPL รวมทั้ง Upside จากราคาเป้าหมายจำกัดแล้ว
  • SPALI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 27.5 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 1.7 พันล้านบาท (+41% YoY ทรงตัว QoQ) ดีกว่าคาด +14% ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องใน 4Q64
  • AP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 12 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 1 พันล้านบาท (-29% YoY, -8% QoQ) เป็นไปตามคาด ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้นใน 4Q64 และฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ปี 2564-65 ขึ้น +7% และ +6% ตามลำดับ
  • TOP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 63 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 2.1 พันล้านบาท (+188% YoY, -3% QoQ) ต่ำคาด -20% ผลจาก Hedging loss ที่มากกว่าคาด อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวดีมากใน 4Q64 ฝ่ายวิจัยฯ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • IRPC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 2.2 พันล้านบาท (+39% YoY, +753% QoQ) เป็นไปตามคาด ขณะที่แนวโน้มค่าการกลั่นฟื้นตัวดีมากใน 4Q64 แต่เนื่องจาก Spread PP และ ABS ที่คาดจะเริ่มปรับลงในปีหน้า ฝ่ายวิจัยฯ จึงแนะนำเพียง “ถือ”
  • KCE * แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 80 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 604 ล้านบาท (+142% YoY, -2% QoQ) คาด -8% แม้จะคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น QoQ ใน 4Q64 จากกำลังการผลิตใหม่ แต่ Upside จำกัดแล้ว จึงแนะนำเพียง “ถือ”
  • NETBAY แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 35 บาท รายงานกำไร 3Q64 = 38 ล้านบาท (+2% YoY, -3% QoQ) ดีกว่าคาด + 6%
- Advertisement -