SCL ผลงาน Q2/67 กำไรพีคเฉียด 100% มองครึ่งปีหลังสัญญาณดี ปรับเป้ารายได้ปี 67 โต 20% รับดีมานด์อะไหล่รถยนต์พุ่งแรง
SCL ผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ เผยกำไรพีคเกือบเท่าตัว Q2/67 กำไรอยู่ที่กว่า 10 ลบ. พุ่งแรงเกือบ 98% สนับสนุนครึ่งปีกวาดกำไรไปเกือบ 23 ลบ. โต 92% ส่วนรายได้อยู่ที่ 915 ลบ. โต 24% ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของอะไหล่แท้ และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ มองครึ่งปีหลังสัญญาณดี จากภาพรวมตลาดรถใหม่ในปี 67 ปรับตัวลง หนุนความต้องการอะไหล่รถยนต์เพื่อใช้บำรุงรักษารถคันเดิมเพิ่มขึ้น จึงมั่นใจปีนี้ผลงานทะลุเป้า พร้อมปรับเป้าหมายรายได้ จากเดิมคาดโต 10% เป็นโตไม่ต่ำกว่า 20%
นายสกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) (SCL) ผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ของประเทศ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อะไหล่มากกว่า 170,000 รายการ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 97.57% จากการเติบโตของรายได้จากการขายอยู่ที่ 447.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.99% แบ่งเป็น รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (Genuine Parts) 401.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.01% สาเหตุหลักจากความต้องการของผู้บริโภคในการจัดหาอะไหล่เพื่อซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อรถใหม่ยังเข้มงวด ขณะที่ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์อะไหล่ทดแทน (Replacement Part) อยู่ที่ 45.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.51% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุสำคัญมาจากสินค้าที่สั่งเข้ามาเพื่อขายล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 กำไรสุทธิอยู่ที่ 22.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.75% รายได้จากการขายอยู่ที่ 914.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.96% พร้อมกับ สามารถควบคุมต้นทุนขายได้ดี จากการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายและการลดลงของสินค้าคงเหลือ ควบคู่ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและจัดจำหน่ายที่ลดลง
SCL ยังคงสามารถรักษาการเติบโตได้ดี กำไรเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเฉียด 100% ตามความต้องการอะไหล่รถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ในครึ่งปีแรกปรับตัวลดลง จากผลกระทบปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับ สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อรถใหม่โดยเฉพาะรถกระบะ ส่งผลให้ผู้บริโภคมุ่งเน้นบำรุงรักษารถคันเดิมให้มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนธุรกิจอะไหล่รถยนต์ของ SCL ที่เติบโตตามจำนวนรถยนต์สะสมในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 20 ล้านคัน อีกทั้ง จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ประกาศปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ลดลง เป็นปัจจัยสนับสนุนภาพรวมอะไหล่รถยนต์ในครึ่งปีหลัง รวมทั้ง กลยุทธ์การขยายสินค้าและขยายธุรกิจไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานพาหนะอื่นๆ เพิ่มเติม
ทางทีมบริหารจึงมีการทบทวนเป้าหมายเพื่อให้สอดรับกับโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ โดยปรับเป้ารายได้คาดเติบโตจากปีก่อน ไม่ต่ำกว่า 10% เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2567 รายได้อยู่ที่ 1,485 ล้านบาท